เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก อาการที่มักจะเป็นได้บ่อยคือ หน้ามืด เวียนหัวใจสั่นหวิว คล้ายจะเป็นลม โดยช่วงเวลาที่จะเป็นได้ง่ายก็คือตอนเช้านั่นเอง ส่วนสาเหตุเกิดจากเรื่องใดบ้างและจะเป็นอันตรายหรือไม่ วันนี้เราก็มีคำตอบมาบอกกันแล้ว

คนท้องหน้ามืด เวียนหัวบ่อย เกิดจากอะไร

สาเหตุที่คนท้องมีอาการหน้ามืดได้บ่อย เกิดได้หลายสาเหตุดังต่อไปนี้

1.มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

เมื่อมีการตั้งครรภ์ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการปรับตัวของสารบางอย่างในร่างกายที่ไม่สมดุล จึงส่งผลให้มีอาการหน้ามืด เวียนหัว ได้บ่อย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลที่ลดลง จึงทำให้หญิงตั้งครรภ์บางคนมีความดันต่ำลงด้วย ซึ่งส่งผลต่อการทำให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ หรือวูบเป็นลมได้บ่อยนั่นเอง

2.ความเครียด วิตกกังวล และนอนหลับไม่เพียงพอ

หญิงตั้งครรภ์บางรายอาจจะมีความเครียดเรื่องต่างๆ สะสมอยู่ภายในจิตใจ ตลอดจนความวิตกกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ จนทำให้นอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งล้วนแต่ส่งผลมาทางร่างกายได้ทั้งสิ้น เมื่อจิตใจอ่อนแอ จึงทำให้มีอาการแสดงออกมาทางร่างกาย จึงพบได้ว่าหญิงตั้งครรภ์มีอาการวิงเวียนศีรษะได้ง่ายหากมีความเครียด

3.สภาพอากาศที่ร้อนจัดหรืออยู่ในที่แออัด

ในสภาวะที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกำลังสร้างร่างกายของทารกในครรภ์ จึงทำให้ร่างกายต้องกักเก็บพลังงานความร้อนไว้ให้มากพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่เมื่อหญิงตั้งครรภ์ต้องมาสัมผัสกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด  จึงทำให้ร่างกายรับไม่ไหว จนส่งผลให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนหัว เหมือนจะเป็นลมได้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเมื่อหญิงตั้งครรภ์ได้กินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ก็จะช่วยให้อาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ หน้ามืดทุเลาลง ที่เป็นเช่นนี้เพราะรสเปรี้ยวของผลไม้จะช่วยเข้าไปดับความร้อนในร่างกายให้เย็นลง จนมีความสมดุล อาการดังกล่าวจึงหายไปนั่นเอง

4.มีโรคประจำตัว

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง โรคหัวใจ หรือโรคอื่นๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

รับมืออย่างไร เมื่อมีอาการหน้ามืด เวียนหัว

ได้รู้กันแล้วว่าอาการหน้ามืดเวลาลุก เกิดจาก อะไร ทีนี้เรามาดูวิธีการรับมือกันบ้างดีกว่า ได้แก่

1. หากยืนแล้วมีอาการวิงเวียนศีรษะ คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องค่อยๆ นั่งลง เพื่อป้องกันการล้มศีรษะกระแทกพื้นได้ โดยเมื่อนั่งแล้วหากมียาดม ยาหม่องก็นำมาสูดดมให้อาการดีขึ้น แล้วจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปต่ออย่างช้า ๆ

2. ช่วงตื่นนอนในตอนเช้าจะทำให้เกิดอาการวูบได้ง่าย คุณแม่ตั้งครรภ์ควรลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ขณะลุกนั่งให้นั่งห้อยขาที่ขอบเตียงสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้เลือดได้ไหลเวียนไปยังสมองได้เต็มที่ แล้วจึงลุกขึ้นจากเตียง เป็นการป้องกันการวูบ หรือเป็นลมหน้ามืดได้ดี

3. หากจำเป็นต้องเดินในระยะไกลๆ ขณะที่เดินนั้นควรหยุดพักบ้าง ไม่ควรเดินระยะไกล ๆ เป็นเวลานาน

4. สำหรับคุณแม่ที่ต้องยืนเป็นเวลานาน ควรจะมีการสลับเดินไปมา เพื่อให้เลือดลมถ่ายเทได้สะดวก จะได้ลดปัญหาการเกิดเส้นเลือดขอด รวมถึงช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นด้วย

5. หากจำเป็นต้องเดินขึ้นลงบันได ควรจะจับราวบันไดไว้ด้วย เพื่อป้องกันการสะดุดหกล้ม และขณะเดินขึ้นลงบันไดก็ไม่ควรก้มตัว หรือทำตัวงอจนทำให้เกิดการหายใจไม่สะดวก และมีอาการวูบได้

6. ควรกินของว่างที่มีประโยชน์บ่อยๆ ในระหว่างวัน จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ

7. ดื่มน้ำให้มาก ๆ โดยการที่แม่ตั้งครรภ์ดื่มน้ำมาก ก็จะช่วยให้ระดับอุณหภูมิในร่างกายเป็นปกติ อาจจะเสริมเป็นน้ำมะนาว น้ำส้ม หรือน้ำมะพร้าวอ่อน ก็จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น ช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ดี

อาการแบบไหน ต้องไปพบแพทย์

หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการหน้ามืด เวียนหัววูบเป็นลมบ่อย ๆ ร่วมกับมีอาการดังต่อไปนี้ ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

Sponsored

1.ปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน

หากคุณแม่มีอาการวูบ หน้ามืดเป็นลมบ่อย ๆ ร่วมกับการมีอาการปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน ให้สงสัยเลยว่าอาจจะเป็นสาเหตุของอาการท้องนอกมดลูกก็เป็นได้ ซึ่งควรรีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างทันทีและลดความเสี่ยงที่อาจจะอันตรายถึงชีวิตลงได้

2.หายใจติดขัดเหนื่อยง่าย

อาการหายใจติดขัด เหนื่อยง่าย ร่วมกับอาการหน้ามืดจะเป็นลม ในคุณแม่ตั้งครรภ์อาจจะมีสาเหตุมาจากปัญหาของระบบทางเดินหายใจ หืดหอบ โดยเฉพาะในรายที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับอาการภูมิแพ้อยู่ก่อนแล้ว เมื่อครรภ์ขยายใหญ่ขึ้นอาจจะทำให้เกิดการเบียดตัวของมดลูกเข้ามาร่วมด้วย จนอาการภูมิแพ้หืดหอบกำเริบ ส่งผลให้หายใจลำบาก และเหนื่อยง่ายนั่นเอง

3.มองเห็นไม่ชัดหรือมองเห็นวัตถุลางๆ

อาการมองเห็นภาพไม่ชัด สายตาพร่ามัว ในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นร่วมกับอาการหน้ามืด วูบ เป็นลม ที่น่าเป็นห่วงคืออาการครรภ์เป็นพิษ ซึ่งหากไปพบแพทย์ทันทีจะช่วยชีวิตได้ทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ หากไปพบแพทย์ช้า อัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจะมีสูงมาก

4.ใจสั่น

แม่ที่มีอาการหน้ามืด เวียนหัวคลื่นไส้จะเป็นลม มีอาการใจสั่นร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อจะได้ตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ ซึ่งอาจจะเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ทำให้เม็ดเลือดแดงมีไม่เพียงพอ จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอและมีใจสั่นได้

5.ปวดศีรษะ

อาการปวดศีรษะในคุณแม่ตั้งครรภ์ อาจเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง หรืออาการครรภ์เป็นพิษก็ได้

6.อาเจียน

ในคุณแม่ที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนมาก จนทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เพราะร่างกายสูญเสียเกลือแร่ และน้ำเป็นจำนวนมากอาจจะต้องได้รับสารน้ำเพื่อชดเชย

ถึงแม้ว่าในคุณแม่ตั้งครรภ์บางรายจะมีอาการดังที่กล่าวมานี้ แต่ก็เป็นเพียงช่วงการตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกเท่านั้น พอย่างเข้าเดือนที่ 4 อาการวิงเวียนศีรษะหน้ามืด เป็นลมจะค่อยๆ ทุเลาลง และหายไปได้เองในที่สุด สำหรับคุณแม่บางรายที่ยังมีอาการหน้ามืด เวียนหัว แม้อายุครรภ์แก่แล้วก็ตาม ควรจะได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อรับคำแนะนำอย่างถูกต้องต่อไป

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ปอดอักเสบ เกิดจากอะไร? แม่ท้องเป็นโรคนี้จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ไหม

2.อาการท้องแรก และ 7 เรื่องที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้