พัฒนาการที่สำคัญ ของเด็กวัยอนุบาล ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งอายุได้ 4 ขวบ ช่วงเวลาสำคัญที่ลูกควรจะมีพัฒนาการที่ดีสมวัย สำหรับคุณแม่ทุกคนย่อมต้องการเห็นลูกน้อยมีพัฒนาการรอบด้าน และสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพใช่ไหมค่ะ วันนี้คุณเริ่มเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อยได้ดีแล้วหรือยัง ถ้ายังลองมาดูเทคนิคการเสริมสร้างพัฒนาการสำคัญก่อนเข้าเรียนกับเราดีกว่าค่ะ

ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย

ครอบครัว มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กเล็ก ถ้าลูกน้อยเติบโตมาในครอบครัวที่มีการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม คุณพ่อ คุณแม่และคนในครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ไปพร้อมกับเด็ก ๆ มีความสุขในการดำเนินชีวิต มีการจัดเวลาไว้อย่างเหมาะสม จัดสถานที่ไว้ให้ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเต็มที่ ลูกสามารถออกกำลังกาย และเล่นได้อย่างปลอดภัย เมื่อเด็กมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีพัฒนาการที่ดีสมวัย ย่อมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่มีความพร้อมทางด้านครอบครัว มีปัญหาครอบครัว ไม่สามารถพัฒนาการทางด้านร่างกายได้อย่างเต็มที่ เด็กที่เกิดมาในสภาวะแวดล้อมเช่นนี้ อาจจะมีพัฒนาการด้านร่างกายช้า และไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ต่อยอดความสำเร็จได้

พัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็ก

  • เด็กที่มีอายุได้ 3 – 6 ขวบ พัฒนาการด้านร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว จำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ อาหารและโภชนาการที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญของสุขภาพและสติปัญญาที่ดีในระยะยาว เด็กที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จะมีภูมิต้านทานต่ำ ไม่แข็งแรง มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการช้า ซึ่งส่งผลเสียต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ของลูกได้
  • เสริมส้างสุขนิสัยที่ดี ด้วยการดูแลลูกให้มีสุขภาพแข็งแรง คุณแม่ควรฝึกลูกให้ปฏิบัติตัวให้มีสุขอนามัยที่ดีจนเป็นนิสัย เช่น สร้างนิสัยในการล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร การล้างหน้าแปลงฟันตอนเช้า และการดูแลรักษาความสะอาดร่างกาย
  • พักผ่อนให้เพียงพอ คุณแม่ควรจัดเวลานอนให้เหมาะสม เด็กวัยนี้ควรมีเวลานอนต่อเนื่อง 8 – 10 ชั่วโมง และนอนกลางวันประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง มีการออกกำลังกายพอสมควร จึงจะส่งผลให้ลูกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เจริญเติบโตสมวัย มีจิตใจที่มั่นคง มีอารมณ์ที่สดใจ ไม่หงุดหงิดง่าย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์

ในขณะที่พัฒนาการด้านร่างกยของเด็กจะมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ พัฒนาการทางด้านอารมณ์ก็เช่นเดียวกันค่ะ เด็กวัยอนุบาลนี้ จะมีอารมณ์ที่แปรปรวนได้ง่าย เพราะต้องเข้าไปอยู่ร่วมกับเด็กอื่นๆ ในสังคมเดียวกันทำให้มีการแสดงออกทางด้านอารมณ์ที่ชัดเจน มีความสนใจในเรื่องต่าง ๆ ค่อนข้างสั้น เวลาดีใจ เสียใจ โกรธ หรือกลัว ลูกจะแสดงอารมณ์ออกมาเต็มที่ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์เหล่านั้นได้ดีเหมือนผู้ใหญ่ ซึ่งเราสามารถแบ่งอารมณ์ของเด็กออกเป็น 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ อารมณ์ด้านบวก เมื่อลูกรู้สึกรักมีความสุข จะแสดงออกด้วยการยิ้ม กอด หัวเราะ มีความสนุกสนาน มีความสุข ส่วนอารมณ์ด้านลบ จะเกิดขึ้นเมื่อลูกรู้สึกโกรธ กลัว และอิจฉา

พัฒนาการทางด้านอารมณ์ของเด็กเล็ก

  • ครอบครัวเป็นศูนย์กลางการสร้างสังคม เด็กจะเห็นโลก และมีทัศนคติที่ดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับครอบครัว คุณแม่เป็นผู้ชักนำ ดังนั้น เพื่อให้ลูกมีอารมณ์ที่สดใส สามารถเข้าสู่สังคมได้อย่างเหมาะสม คุณแม่จะต้องฝึกฝนให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์ ถึงแม้บางครั้งลูกจะมีอายุน้อยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีนัก แต่คนเป็นแม่สามารถฝึกฝนให้ลูกสามารถควบคุมอารมณ์ได้โดยการเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ลูกได้เห็นอยู่เสมอ เมื่อพวกเขาโตขึ้นก็จะซึมซับพฤติกรรม และวิธีการควบคุมอารมณ์อย่างถูกต้อง ไม่แสดงออกทางอารมณ์ที่ไม่ดีต่อสังคมและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างสงบสุขต่อไป นอกจากนี้อารมณ์ของลูกจะดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดของคุณพ่อ คุณแม่ และคนในครอบครัว ครอบครัวที่อบอุ่นจะช่วยให้เด็กมีความสุข สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขได้
  • เสริมสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง เด็กช่วงวัย 6 ขวบปีแรก เป็นช่วงวัยที่สำคัญมากที่สุดในการวางพื้นฐานเรื่องพฤติกรรม และบุคลิกภาพ คุณแม่สามารถช่วยส่งเสริม และสร้างให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองได้ โดยการค้นหาจุดเด่น สังเกตว่าลูกมีความสุขในการทำกิจกรรมใด และสนับสนุนให้ทำกิจกรรมนั้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้ คุณแม่ควรสอนให้ลูกทำในสิ่งที่ดี ฝึกให้ลูกทำดี รู้จักเสียสละ มีน้ำใจ ช่วยเหลือแบ่งปันผู้อื่นอยู่เสมอ ไม่เห็นแก่ตัว ด้วยการที่คุณพ่อ คุณแม่ปฏิบัติตนให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง แล้วลูกซึมซับพฤติกรรมที่ดีเหล่านี้จนกลายเป็นนิสัยไปโดยอัตโนมัติ

ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา

คุณแม่จะต้องเสริมสร้างพัฒนาการด้านสติปัญญาของลูกน้อยเพื่อเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ และความสำเร็จในการเรียน สามารถต่อยอดความฉลาดให้กับลูกในอนาคตได้ การส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็กวัยอนุบาลนั้นคุณแม่สามารถฝึกสอนลูกได้ โดยการใช้ภาษาในการสื่อสารอย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้ลูกฝึกในการฟัง ฝึกการพูด การอ่านและการเขียนที่มีประสิทธิภาพ

พัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็กเล็ก

  • เด็กวัยนี้จะมีพัฒนาการด้านสติปัญญาเป็นอย่างดี เป็นช่วงเวลาของวัยแห่งการเรียนรู้ที่รวดเร็ว ชอบตั้งถาม รู้จักเลือกใช้คำศัพท์ได้มาก และถูกต้อง มีความคิดเป็นของตนเอง มีความจำที่ดี ชอบอ่านหนังสือ ชอบการเป็นผู้นำ และชอบแสดงความคิดเห็น มีจินตนาการที่เป็นอิสระ คุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาให้ลูกได้โดยการจัดกิจกรรมที่ปลูกฝังทางความคิด ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 (มอง ฟัง สัมผัส ชิมรส และดมกลิ่น) เลียนแบบการกระทำและเสียงต่าง ๆ ที่ได้ยิน พาลูกไปทัศนศึกษา ชวนลูกเขียนภาพ ระบายสี และปั้นดินน้ำมัน ปล่อยให้ลูกได้อธิบายเกี่ยวกับผลงานของตนเอง
  • ฝึกฝนการใช้ภาษาในการสื่อสาร ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ให้ลูกได้มีโอกาสเล่นกับเพื่อน ได้พูดแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ในการเล่านิทาน หรือการอ่านคำคล้องจองต่าง ๆ อย่างเป็นอิสระ นอกจากนี้คุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะการสังเกต การจำแนก และการเปรียบเทียบด้วยการพาลูกออกไปสำรวจ อธิบายความเหมือนและความต่างของสิ่งที่อยู่รอบตัว สนทนากับลูกเกี่ยวกับลักษณะของวัตถุสิ่งของเหล่านั้น นำมาจับคู่ จำแนก จัดกลุ่ม เรียงลำดับ และเปรียบเทียบ เพื่อกระตุ้นกระบวนการทางความคิด ให้ลูกรู้จักคำนวณและนึกถึงความเป็นจริงที่สามารถวัดได้
  • สอนเรื่องจำนวน ทั้งการนับจำนวนและการรู้ค่าของจำนวน ด้วยการฝึกเปรียบเทียบจำนวนมากกว่า น้อยกว่า เท่ากัน คุณแม่ควรอธิบายเรื่องมิติสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจในเรื่องของตำแหน่ง ระยะทาง ทิศทางและพื้นที่ด้วยการเล่นทราย และการกรอกน้ำ เพื่อให้ลูกคิดคำนวนความและวิเคราะห์ สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวได้

พัฒนาการทั้ง 3 นี้คุณแม่จะต้องช่วยกระตุ้น ส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวได้อย่างเต็มที่ พร้อมที่จะเข้าสู่สังคมได้อย่างมีความสุขต่อไปค่ะ

Sponsored

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ปอดอักเสบ เกิดจากอะไร? แม่ท้องเป็นโรคนี้จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ไหม

2.อาการท้องแรก และ 7 เรื่องที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้