คุณแม่เมื่อตั้งครรภ์ได้ 2 เดือนอาจจะอยากรู้ว่าลูกน้อยในครรภ์มีการพัฒนาไปในด้านใดบ้างแล้ว วันนี้เราจึงจะพาไปดูกันค่ะว่าพัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือน เป็นอย่างไร พร้อมด้วยคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับอาหารที่ควรกิน รวมถึงสิ่งที่ควรทำ เพื่อสุขภาพครรภ์ที่ดีที่สุดดังนี้
พัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือน เป็นอย่างไร
เมื่อคุณแม่อายุครรภ์ได้ 2 เดือน คุณแม่หลายคนอาจจะกำลังแพ้ท้องเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันลูกน้อยในครรภ์ก็มีการพัฒนาตัวเองมากขึ้นเช่นกัน เรามาดูกันว่าลูกน้อยจะมีพัฒนาการอย่างไรบ้าง
1. ร่างกาย โดยเฉพาะส่วนหัวของลูกน้อยยังโตไม่มากนัก ช่วงลำตัวของลูกจะค่อยๆ ยืดยาวออกมา โดยมีความยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร ในส่วนของน้ำหนักตัวจะอยู่ที่ 3 กรัมโดยเฉลี่ย
2. แขนและขาพัฒนาได้ดี ในขณะเดียวกันการพัฒนาการในส่วนของแขน และขาก็เริ่มแยกให้เห็นนิ้วมือ ข้อมือ ข้อศอก และนิ้วเท้าเล็กจิ๋วได้แล้ว
3. พัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือน โครงสร้างใบหน้าจะชัดขึ้น มองเห็นใบหน้า และดวงตาดำรางๆ เห็นจมูก ริมฝีปาก และใบหูของลูกด้วย
4. สำหรับในส่วนของผิวหนัง ได้พัฒนามากขึ้น เริ่มแบ่งเป็นสองชั้น และมีการสร้างต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน และจะเห็นว่าเริ่มมีขนงอกออกมาจากรูขุมขนแล้ว ซึ่งเป็นขนอ่อนๆ
5. สำหรับอวัยวะภายใน ช่วงพัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือนก็ได้พัฒนาจนครบถ้วนสมบูรณ์แล้วทุกส่วน รอแต่เวลาที่ให้มีการเจริญเติบโตตามอายุครรภ์จึงจะมีในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ตามมา
อาหารบำรุงครรภ์ที่แนะนำ
อาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ช่วงวัย 2 เดือน ควรกินอาหารประเภทใด จึงจะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการทารกในครรภ์มาดูกันค่ะ
1.ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กมีความจำเป็นต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดงของตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ โดยอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงส่วนใหญ่ จะอยู่ในประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ไข่แดง ผักใบเขียว ถั่วชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถหาได้จากผักพื้นบ้าน ใบกระเพรา ตำลึง ชะอม ผักขึ้นฉ่าย ยอดฟักทอง ยอดแค และผักไชยาหรือคะน้าเม็กซิโก ซึ่งสามารถนำมาปรุงสุกกินแทนผักคะน้าได้เป็นอย่างดี ปลอดภัยจากสารเคมีอีกด้วย
2.แคลเซียม
แคลเซียมจัดเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการสร้างร่างกายและพัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือนเป็นอย่างมาก หากคุณแม่กินแคลเซียมไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้ เพราะร่างกายของลูกน้อยต้องการแคลเซียมมาสร้างกระดูกและฟัน โดยอาหารที่มีแคลเซียมหาได้จากแหล่งอาหารเหล่านี้ คือปลาข้าวสาร กะปิ กุ้งแห้ง ถั่วเมล็ดแห้ง คะน้า บล็อกโคลี่ กุยช่าย รวมถึงผักพื้นบ้านอย่าง ตำลึง และชะพลู
3.โฟเลต
โฟเลตมีความจำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ในระยะนี้ โดยจะช่วยพัฒนาการทารกในครรภ์ให้ระบบสมองและประสาทของลูกน้อยทำงานได้อย่างเต็มที่ ป้องกันความเสี่ยงของการพิการแต่กำเนิด ช่วยให้เซลล์สื่อประสาทเชื่อมโยงต่อกันได้ดี ซึ่งคุณแม่ที่กินอาหารที่มีโฟเลตเพียงพอขณะตั้งครรภ์ จะทำให้เกิดมามีความสมบูรณ์และเฉลียวฉลาด โดยอาหารที่มีโฟเลตประกอบด้วย ผักโขม บร็อคโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง มะเขือเทศ ส้ม เมล็ดทานตะวัน รวมถึงธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวโอ๊ต งา และถั่วลิสง
คำแนะนำสำหรับคนท้อง 2 เดือน
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ครบ 2 เดือน อาจมีอาการแพ้ท้องได้ในช่วงนี้ ควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างมีความสุข ได้แก่
1.บรรเทาอาการแพ้ท้องด้วยอาหารคุณภาพ
อาจจะมีคุณแม่หลายคนที่แพ้ท้องกลืนน้ำลายไม่ได้ โดยให้คุณแม่หาขนมปังกรอบแบบเค็มมาไว้ เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาให้กินขนมปังกรอบทันที แล้วนอนพักสักครู่ จะช่วยให้อาการแพ้ท้องในตอนเช้าทุเลาลง
2.หลีกเลี่ยงของทอดและผลไม้ดอง
ช่วงนี้คุณแม่จะรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนมีอาการพะอืดพะอมได้ง่าย จึงควรกินอาหารที่ย่อยง่ายและกินมื้อเล็กๆ หลายมื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง จนทำให้กระตุ้นให้เกิดการคลื่นไส้อาเจียนได้นั่นเอง นอกจากนี้ควรงดกินอาหารที่ผ่านการทอดหรือผัดด้วยน้ำมันมากๆ ตลอดจนครีม เนย หรือไขมันอื่นๆ เพราะกินแล้วนอกจากทำให้อ้วนง่ายแล้ว ยังทำให้ร่างกายเกิดความร้อนจำนวนมากสะสมในร่างกาย จนมีอาการแพ้ท้องเพิ่มมากขึ้น และควรงดผลไม้ที่ผ่านการหมักดองเพราะคุณค่าสารอาหารมีน้อย และเสี่ยงต่อการได้รับสารปนเปื้อนในอาหารอีกด้วย
3.ควรดื่มน้ำให้พอเพียง
การดื่มน้ำควรแบ่งดื่มเป็นระยะๆ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มพร้อมกับอาหาร เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ส่งผลให้ท้องอืดมากขึ้น ซึ่งในแต่ละวันนั้นคุณแม่ควรดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตรขึ้นไป เพื่อพัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือนที่ดีนั่นเอง
4.บรรเทาอาการแพ้ท้องด้วยยา และวิตามินเสริม
คุณแม่ที่ได้รับยาที่มีธาตุเหล็กผสม เมื่อกินแล้ว ทำให้เกิดอาการปั่นป่วนในท้อง เนื่องจากเกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร หรือคุณแม่ที่เคยมีอาการแพ้ท้องรุนแรงมาก่อน ควรแจ้งให้คุณหมอทราบ เพื่อคุณหมอจะได้สั่งวิตามิน B ให้กลับไปกินแทน จะช่วยให้อาการแพ้ท้องดีขึ้น และนอกจากยาที่แพทย์สั่งแล้วคุณแม่ห้ามกินยาอื่นเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมที่เคยกินอยู่ก่อนตั้งครรภ์ ก็ควรงดเว้นไว้ก่อน เพราะหากกินต่อไปอาหารเสริมอาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องมาก สามารถกินขิงอ่อนเพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ด้วย
คุณแม่ตั้งที่ครรภ์ในช่วงวัย 2 เดือน ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะว่าทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ หมายถึงพัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือน ที่เป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งการเจริญเติบโตของลูกน้อยจะเป็นไปได้ดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณแม่กินในแต่ละวัน อากาศบริสุทธิ์ และจิตใจที่เบิกบานแจ่มใสของคุณแม่ ก็ล้วนแต่ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์ทั้งสิ้น
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่