ลูกกำลังเป็น โรคซึมเศร้า หรือไม่? ปัจจุบันนี้ เราอาจจะเคยได้ยินว่ามีผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาการของโรคนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน บางคนอาจถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย บางคนก็ถึงขั้นเก็บตัวอยู่เพียงคนเดียวภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการตื่นตัวกับโรคนี้มากขึ้น หลาย ๆ คนเริ่มเอาใจใส่คนในครอบครัว รวมทั้งเพื่อนฝูงมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่าไม่ใช่แค่วัยรุ่นและผู้ใหญ่เท่านั้นที่เป็นโรคซึมเศร้าได้ ในเด็กเล็ก ๆ ก็สามารถเป็นได้เหมือนกัน และมักจะมีอาการรุนแรงไม่ต่างกับผู้ใหญ่เลย
ลูกกำลังเป็น โรคซึมเศร้า หรือไม่?
โรคซึมเศร้าในเด็กคืออะไร
ปกติเด็กในช่วงอายุ 8-12 เป็นช่วงที่เด็กกำลังมีความสดใส ร่าเริง ช่างพูดช่างคุย และยังไม่ค่อยมีความทุกข์ใจมากนัก แต่คนเป็นพ่อแม่อาจจะไม่มีทางรู้เลยว่าภายในใจของเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ ได้เก็บกดอะไรเอาไว้บ้าง หรือมีปัญหาทางกายที่ส่งผลกระทบต่อการเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า ซึ่งทางการแพทย์ได้จำแนกการเป็นโรคซึมเศร้าในวัยเด็กได้จาก 2 กรณี คือ
ปัจจัยทางกาย
- สาเหตุจากกรรมพันธุ์ – หากบุคคลในครอบครัวเคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กเกิดโรคนี้ตามมาได้
- สาเหตุจากเคมีในสมองไม่สมดุล – เป็นสาเหตุพื้นฐานของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเกือบทุกเพศทุกวัย ซึ่งมีผลลัพธ์มาจากการที่เซโรโทนิน และนอร์เอพิเนฟริน ที่เป็นสารสื่อประสาทมีปริมาณที่ต่ำลงจากเดิม
- สาเหตุจากโรคภัยบางชนิด ที่มีผลต่อการเสียหายของสมอง – เช่น โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดในสมอง โรคพาร์กินสัน โรค SLE เป็นต้น
ปัจจัยทางจิตใจ
- สาเหตุจากผู้ปกครอง – อาจจะถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดจนเกินไป หรือถูกบังคับฝืนใจให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำจนกลายเป็นความกดดันอย่างหนักที่ไม่สามารถบอกใครได้
- สาเหตุจากเพื่อน – ถูกเพื่อนกลั่นแกล้งเป็นประจำเวลาอยู่ที่โรงเรียน จนทำให้เกิดความวิตกกังวล กลัวการไปโรงเรียน หรือกลัวการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ๆ ในสังคม
- สาเหตุจากตัวเอง – เกิดจากความเครียดที่สะสมภายใน บางคนอาจมีความต้องการแข่งขันกับตัวเองสูง ต้องการเอาชนะ หรือบางคนเป็นโรคขาดความมั่นใจในตัวเองจนรู้สึกกับตัวเองในแง่ลบ
- สาเหตุจากอดีต – เกิดจากการจดจำเรื่องราวเลวร้ายในอดีตที่ส่งผลกระทบต่อปัจจุบัน เช่น การถูกทำร้ายร่างกาย การสูญเสียพ่อแม่ การถูกพ่อแม่ทิ้ง เป็นต้น
การสังเกตว่าลูกเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า
เพราะโรคซึมเศร้าในเด็ก ไม่ค่อยจะสังเกตเห็นได้มากเท่าผู้ใหญ่ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองโดยตรงที่ต้องหมั่นตรวจเช็คดูว่า ลูกกำลังมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่ ?
- มีอาการเศร้าซึม จากที่เมื่อก่อนก็ร่าเริงเป็นปกติดี อาการเหล่านี้จะสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายมากที่สุด ยิ่งถ้าถามคำตอบคำ หรือแสดงทีท่าไม่อยากคุยต่อด้วย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าลูกต้องมีปัญหาภายในใจแน่นอน
- บางครั้งเด็กก็ไม่สามารถประมวลความรู้สึกออกมาได้ว่า สิ่งที่กำลังเกิดอยู่นั้นคือ “ความเศร้า” จึงทำให้เกิดความกดดันและกลายเป็นการเจ็บป่วยอย่างเช่น การปวดศีรษะ ปวดท้อง อาเจียน ทุกครั้งที่รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง
- เด็กมีอาการสมาธิสั้นลง จากที่เคยจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นาน ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เวลานอนหลับจะหลับไม่ค่อยสนิท กระสับกระส่าย พลิกตัวอยู่ตลอดเวลา
วิธีการรับมือ เมื่อลูกป่วยด้วยโรคซึมเศร้า
เมื่อพบว่าลูกมีอาการที่เข้าข่ายกับการเป็นโรคซึมเศร้า ตามที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น ก็เป็นเรื่องของคุณพ่อคุณแม่โดยตรง ที่จะต้องช่วยกันประคับประคองจิตใจลูกให้กลับมาร่าเริงสดใสเหมือนเดิมให้ได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
สังเกตตัวเองก่อน
มีหลายกรณีที่เด็กเป็นโรคซึมเศร้า โดยเกิดจากพฤติกรรมของพ่อแม่ที่กดดันจนลูกเกิดความเครียด ไม่ว่าจะเป็นการบังคับให้ทำตามใจ การทะเลาะวิวาทกันบ่อยในครอบครัว ซึ่งพ่อแม่ควรจะเริ่มปรับในจุดนี้ก่อนเป็นจุดแรก เพื่อให้เด็กเกิดความสบายใจมากยิ่งขึ้น
หมั่นพูดคุยกับลูกอยู่เสมอ
เมื่อเห็นว่าลูกมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม พ่อและแม่ควรจะรีบหาสาเหตุให้เร็วที่สุด และควรมีการพูดคุยกันบ่อย ๆเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่า อะไรที่กำลังเป็นปัญหาของลูกอยู่ในขณะนี้ พ่อและแม่จะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ประโยคที่ดูเหมือนจะเป็นการซ้ำเติม หรือเป็นคำพูดที่กระทบกระเทือนจิตใจเด็ก และควรสอนให้ลูกรู้จักรับมือกับความทุกข์ จะช่วยเยียวยาจิตใจเด็กได้ดีที่สุด
และถ้าหากว่าลองใช้วิธีเหล่านี้แล้ว แต่ลูกของคุณยังไม่ดีขึ้น ก็ขอแนะนำให้ลองพาไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อจะได้ทำการวินิจฉัยและรักษาให้ถูกวิธีต่อไป
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.ปอดอักเสบ เกิดจากอะไร? แม่ท้องเป็นโรคนี้จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ไหม