วงแหวนคุมกำเนิด ตัวช่วยสำหรับคนไม่พร้อมมีบุตร มีคู่รักหลายคู่ที่พึ่งแต่งงานกัน แต่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร บางคนก็อาจจะอยากรอให้ตัวเองมีฐานะมั่งคงกว่านี้เสียก่อน บางคนก็อาจจะรอเวลาให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ รวมทั้งมีความพร้อมมากกว่านี้ด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะบางครั้ง การคุมกำเนิดด้วยการทานยาคุม ก็ยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากความผิดพลาดของฝ่ายหญิงที่อาจจะลืมทานยาคุมตามวันเวลาที่กำหนดไว้ดังนั้น เราจึงขอแนะนำวิธีคุมกำเนิดด้วยวงแหวนคุมกำเนิด ที่ง่าย และสะดวกสบายต่อผู้หญิงเป็นอย่างมาก
วงแหวนคุมกำเนิด คืออะไร ?
วงแหวนสำหรับคุมกำเนิด (Birth Control Ring) เป็นวงแหวนที่มีสีขาวใส ลักษณะอ่อนนิ่ม ไม่ละลายในร่างกาย มีขนาดแค่ขนาดกำไลข้อมือเท่านั้น ภายในวงแหวนคุมกำเนิด มีการบรรจุฮอร์โมนด้วยกัน 2 ชนิด คือ ฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน และฮอร์โมนเอสโตรเจน วิธีการใช้งานก็ไม่ยาก เพียงแค่ล้างมือให้สะอาด ฉีกซองเพื่อนำวงแหวนออกมา แล้วใช้นิ้วบีบให้วงแหวนคุมกำเนิดมีขนาดเล็กลง แล้วค่อย ๆ ใส่เข้าไปในช่องคลอด ในวันที่ประจำเดือนมาวันแรก ด้วยวิธีที่สะดวกมากที่สุด หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วชี้ดันเข้าไปให้สุด จนกว่าจะรู้สึกว่าไม่เจ็บหรือไม่รู้สึกว่าใส่อยู่ก็เป็นอันเสร็จ ส่วนการเอาวงแหวนออกก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลางเกี่ยวเอาวงแหวนคุมกำเนิดออกมาก็เรียบร้อยแล้ว
วงแหวนคุมกำเนิด มีการทำงานอย่างไร
เมื่อมีการใส่วงแหวนคุมกำเนิดเข้าไปในร่างกายแล้ว ฮอร์โมนในวงแหวนจะค่อย ๆ ถูกปล่อยออกมาในปริมาณที่เท่ากันทุกวัน (วงแหวนคุมกำเนิดมีอายุการใช้งาน 1 ครั้ง เพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น เมื่อครบ 21 วันก็เอาออกเพื่อเป็นการพักร่างกาย 7 วันแล้วใส่วงแหวนอันใหม่เข้าไปในวันที่ประจำเดือนมา มีลักษณะคล้ายกับการทานยาคุมกำเนิดแบบเม็ดนั่นเอง) เมื่อฮอร์โมนมีการหลั่งออกมา ร่างกายก็จะดูดซึมฮอร์โมนนี้เข้าไปทางกระแสเลือด ซึ่งจะทำให้เกิดมูกเหนียวขึ้นบริเวณปากมดลูก ทำให้อสุจิไม่สามารถผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้
ประสิทธิภาพของการใช้วงแหวนคุมกำเนิดเป็นอย่างไร ?
ในทางการแพทย์นั้น ได้จัดให้วิธีการคุมกำเนิดด้วยวงแหวนคุมกำเนิด มีอัตราความเสี่ยงในการตั้งครรภ์อยู่ในระดับปานกลาง คืออยู่ในระดับเดียวกับการคุมกำเนิดด้วยการทานยาคุม และการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด คือ ผู้ใช้งาน 11 คน มีโอกาสในการตั้งครรภ์เพียง 1 คนเท่านั้น แต่ถ้าหากมีการใช้วงแหวนคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง (ถอดออกเมื่อครบกำหนด 21 วัน พัก 7 วันแล้วใส่เข้าไปใหม่ หรือใส่เข้าไปในช่องคลอดจนสุด ไม่เกิดการหลุดออกมา) มีโอกาสในการล้มเหลวในการตั้งครรภ์เพียง 0.3% เท่านั้น
ผลข้างเคียงของการใช้วงแหวนคุมกำเนิด มีหรือไม่ ?
เมื่อเปรียบเทียบกับการทานยาคุมกำเนิดแบบเม็ด พบว่าวงแหวนคุมกำเนิดให้ผลข้างเคียงที่น้อยกว่า คนส่วนมากมักไม่พบความผิดปกติใด ๆ เลย ยกเว้นคนที่มีความไวต่อฮอร์โมนเพศหญิง อาจจะเกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หิวบ่อย เจ็บเต้านม ซึ่งเป็นอาการปกติของผู้ที่คุมกำเนิดโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ใด ๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่เมื่อผ่านไป 3 เดือนแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือมีปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอด ก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้การใช้วงแหวนคุมกำเนิด ยังไม่เหมาะกับผู้หญิงที่สูบบุหรี่เป็นประจำ เนื่องจากทำให้หลอดเลือดอุดตัน อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ใครเหมาะ – ไม่เหมาะกับการใช้วงแหวนคุมกำเนิด
ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์สามารถใช้วงแหวนคุมกำเนิดได้ทุกคน แต่ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่ชอบสูบบุหรี่ ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน ผู้ที่สงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาวิธีการคุมกำเนิดในรูปแบบอื่น ที่อาจจะให้ความปลอดภัยมากกว่า
ถึงแม้ว่าการใช้วงแหวนคุมกำเนิด จะค่อนข้างสะดวก และไม่ยุ่งยากในการใช้งาน แต่ด้วยการสั่งซื้อที่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ และมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ จึงทำให้ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในประเทศไทยเท่าที่ควร
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.ลูกไม่กินข้าว เกิดจากอะไร และวิธีการรับมือ
2.เพราะอะไร ลูกมักอาเจียนหลังดื่มนม และเป็นอันตรายไหม