การเลี้ยงลูกจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก  ซึ่งบางทีคุณแม่อาจต้องกลุ้มใจอยู่คนเดียวเพราะไม่มีทางออกหรือคนให้ปรึกษา ดังนั้นลองหา หนังสือเลี้ยงลูก มาเป็นคู่มือกันดูสิ โดยเราก็ขอแนะนำนี่เลย 6 หนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกที่จะเปลี่ยนคุณแม่มือใหม่ให้กลายเป็นมืออาชีพในพริบตา ว่าแต่จะมีหนังสืออะไรบ้างก็ต้องมาดูกันเลย

6 หนังสือเลี้ยงลูก ที่แนะนำให้อ่าน

เราได้คัดสรรหนังสือดีๆ เสมือนเป็นคู่มือให้กับคุณแม่ทั้งมือใหม่และมือเก่าในการเลี้ยงดูลูกมาแนะนำกัน 6 เรื่องดังนี้

1.เลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้ EF

คุณหมอชื่อดังจากเพจ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เป็นผู้เขียนหนังสือเลี้ยงลูกเล่มนี้ไว้ ทำให้คำว่า EF กลายเป็นคำค้นหาสำหรับคุณแม่ทั้งหลายว่ามันคืออะไร แล้วเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกอย่างไร

โดยคุณหมอได้ให้คำตอบว่า การที่เด็กคนหนึ่งจะไปได้ดีกว่าเด็กอีกคนนั้น เด็กควรจะมี EF ซึ่งนับเป็นทักษะสำคัญสำหรับเด็กในยุคนี้ โดยเด็กที่มี EF จะสามารถควบคุมความคิด อารมณ์ และการกระทำ จนบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้และการที่จะมี EF ได้นั้น เด็กต้องฝึกฝนผ่านการเล่น การทำงานบ้าน และการอ่านหนังสือ ดังนั้นถ้าคุณแม่อยากให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตก็ไม่ควรพลาดที่จะหามาอ่าน ซึ่งคุณหมอเขียนไว้ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และปฏิบัติตามได้จริง

2.เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ

ทุกวันนี้ครอบครัวต่างผลักดันให้เด็กแข่งขันกันเป็นที่หนึ่ง หรือเป็นเด็กที่มีความสามารถมากมาย แต่การเป็นที่หนึ่งของเด็กหลายคนอาจไม่ได้รับประกันว่า เด็กจะมีความสุข ซึ่งเด็กเก่งหลายคนกลับดื้อรัน ก้าวร้าว ขาดความรับผิดชอบ

ดังนั้น หนังสือเลี้ยงลูกเล่มนี้ จะบอกว่าควรเลี้ยงลูกอย่างไร ให้เด็กโตมาเป็นเด็กปกติที่มีความสุข โดยมีความภาคภูมิใจในตนเอง รู้จักปรับตัวและต่อสู้กับปัญหาต่างๆ มองโลกในแง่ดี มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ซึ่งคุณแม่ที่อยากให้ลูกเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพและมีความสุขต้องหาหนังสือแม่และเด็กเล่มนี้มาอ่านดู

3.รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว

หนังสือเลี้ยงลูกยอดนิยมจากผู้แต่งชาวญี่ปุ่น ที่ต้องการบอกกล่าวกับผู้อ่านว่า การเลี้ยงดูลูกด้วยความรักจากแม่ และคอยกระตุ้นเด็กตั้งแต่แรกเกิดนั้น ย่อมช่วยให้เซลล์ประสาทพัฒนา ทำให้เด็กมีความฉลาด สามารถเรียนรู้ได้ง่ายและไว ทำให้เด็กมีเหตุผล  ส่วนเด็กที่ขาดการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 โดยเฉพาะขาดการเลี้ยงดูจากแม่นั้น กลับต้องใช้ความพยายามในการเรียนรู้ที่มากกว่า ซึ่งการรอจนกว่าลูกจะเข้าโรงเรียน และให้คุณครูสอนแทนนั้น อาจจะสายเกินไป

4.แนะนำวิธีเลี้ยงลูกแบบ Happy

Sponsored

คุณแม่มือใหม่ทั้งหลายไม่ควรพลาดหนังสือแม่และเด็กที่แนะนำการเลี้ยงลูกตั้งแต่แรกเกิด ด้วยเนื้อหาที่ครบถ้วน จึงทำให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกมากขึ้น ซี่งวิธีการเลี้ยงลูกแบบ Happy จะทำให้ลูกมีความมั่นใจในตนเองทั้งความคิดและจิตใจ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่ต้องตามใคร นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณแม่เข้าใจลูกเมื่อกำลังเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยที่ต่อต้านคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย หนังสือดีๆ ที่มีให้คุณแม่ได้อ่านต่อถึง 3 เล่มด้วยกัน ดังนั้นรีบหามาอ่านซะ

5.สารานุกรมการเลี้ยงดูเด็ก

ชาวญี่ปุ่นถือเป็น พลเมืองที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างมากของโลก ดังนั้นถ้าคุณแม่อยากเลี้ยงลูกให้ได้ดีอย่างคนญี่ปุ่น ลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านดู ซึ่งเขียนโดย นายแพทย์ มิชิโอะ มัตสุดะ กุมารแพทย์ชื่อดังที่ได้รับความเชื่อถือ และหนังสือเลี้ยงลูกเล่มนี้ยังเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดเล่มหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นด้วย

6.เลี้ยงบวก ลูกบวก

หนังสือเลี้ยงลูกที่เขียนโดยคุณแม่ที่มีลูกสาววัย 3 ขวบที่ต้องการเลี้ยงลูกให้มีความสุข โดยนำเสนอวิธีการเลี้ยงลูกเพื่อให้เกิดการพัฒนาทางสมองส่วนคิดและการควบคุมอารมณ์ ให้มีความแข็งแรงทางด้านจิตใจ และมีสัมพันธภาพที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้เด็กเติบโตไปเป็นเด็กที่คิดเป็น โดยการนำวิธีเลี้ยงลูกตามหนังสือไปใช้นั้น ควรปรับตามนิสัยของลูก รวมทั้งคุณพ่อและคุณแม่ด้วย

และนี่ก็คือหนังสือเลี้ยงลูกทั้ง 6 เล่มที่คุณแม่ไม่ควรพลาด คงช่วยตอบปัญหาคาใจทั้งหลายเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ซึ่งเราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่ไม่มากก็น้อย

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ตะกอนในน้ำคร่ำ คืออะไร ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง

2.เจาะน้ำคร่ำ Q&A : อายุ 34 ต้องเจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจภาวะสุขภาพครรภ์