เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกน้อยที่เป็นดั่งดวงใจของเรา กับอาการโรคสมาธิสั้น ซึ่งทางการแพทย์จะเรียกกันว่า ADHD โดยคุณพ่อคุณแม่จะต้องรีบพาเจ้าตัวเล็กเข้าปรึกษาคุณหมอ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษากันต่อไป ซึ่งวันนี้เราก็มีคำแนะนำในการรับมือกับการเลี้ยงดูลูกน้อยที่เป็นโรคสมาธิสั้นมาฝากกันด้วย ไปดูสิว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
คำแนะนำในการเลี้ยงลูก ที่เป็นโรคสมาธิสั้น
เมื่อลูกน้อยเป็นโรคสมาธิสั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ ก็มีดังนี้
1.พาลูกไปพบ หรือปรึกษาแพทย์อยู่เสมอ
เพื่อที่ลูกน้อยจะได้เกิดความเคยชินกับคุณหมอและไม่กลัวการรักษา ช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องให้หายขาดได้ ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ สมาชิกในครอบต้องไม่ปลูกฝังความอคติหรือทัศนคติที่ไม่ดีต่อคุณหมอให้ลูกน้อยฟังเช่นถ้าลูกดื้อคุณหมอจะฉีดยา ไม่อย่างนั้นตัวลูกเองจะเกิดการต่อต้านและไม่ยอมเข้ารับการรักษา ต้องช่วยกันทำให้ตัวเล็กรู้สึกว่าการไปพบคุณหมอเป็นเรื่องที่ดี คุณหมอใจดี ให้กินขนม เขาจะได้ชินและไม่รู้สึกกลัว
2.อย่ายอมแพ้ในการพาลูกน้อยเข้ารับการรักษา
สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจเลยคือระยะเวลาในการรักษาโรคนี้ค่อนข้างที่ยาวนานสำหรับการรักษาที่หายขาด คุณจะต้องมีความอดทนและเข้มแข็งให้มากๆ อย่ายอมแพ้หรือถอยหลังอย่างเด็ดขาด ถ้าคุณยอมแพ้ไปคนหนึ่งลูกเราในอนาคตวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร บางครั้งเขาอาจดื้อ ไม่น่ารัก หรืออาจทำในสิ่งที่ไม่ถูกใจเราบ้างแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนี้เสมอไป ถ้าอดทนจนสามารถรักษาได้หายขาดมันจะคุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีกนะคะ
3.อย่าเครียดหรือกดดันจนเกินไป
แน่นอนว่าการที่ลูกป่วยหรือเป็นโรคสมาธิสั้นสร้างความหนักใจ กังวลใจแก่คุณแม่ไม่น้อย หากช่วงไหนที่คุณรู้สึกว่าไม่โอเคเครียดจนเกินไป แนะนำให้คุณแม่ลองหากิจกรรมอื่นๆ ทำร่วมกับเจ้าตัวเล็กดูนะคะ เช่นการพาลูกน้อยออกกำลังกาย หรือนอนพักผ่อนบ้าง
4.สอนการบ้านหรือทำการบ้านด้วยกันอยู่เสมอ
การบ้านไม่ว่าเด็กคนไหนก็ไม่อยากทั้งนั้น เพียงแต่เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นยิ่งไม่อยากทำมากกว่าเล็กน้อย ยิ่งถ้าต้องมานั่งทำคนเดียวไม่มีใครมานั่งสอนหรือสนใจไปกันใหญ่ แนะนำให้คุณแม่เข้าไปนั่งใกล้ๆ สอนเขาไปด้วย ชมไปด้วยจะช่วยให้เขามีกำลังใจในการทำการบ้านกองโตๆ ได้เลยทีเดียว
5.กำหนดงานบ้านให้ลูกมีส่วนร่วมเป็นกิจวัตรประจำวัน
แนะนำให้มีการทำเป็นตารางขึ้นมาเพื่อให้ลูกน้อยได้มีส่วนร่วมว่าวันหนึ่งเขาจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อที่ลูกน้อยจะได้รู้หน้าที่ที่ตัวเองจะต้องทำต้องรับผิดชอบ เป็นการฝึกความรับผิดชอบและน้ำใจในการช่วยเหลืองานคุณพ่อคุณแม่
6.กำหนดเวลาในการเล่นโทรศัพท์มือถือ
การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ยิ่งทำให้ลูกน้อยเป็นโรคสมาธิสั้นมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าจะห้ามไม่ให้ลูกน้อยเล่นโทรศัพท์มือถือเลยจะเป็นการหักดิบจนเกินไป ดังนั้นคุณจะต้องค่อยๆเป็นค่อยไป ให้เจ้าตัวเล็กค่อยๆ ห่างจากการเล่นจะดีกว่าด้วยวิธีการกำหนดหรือตั้งเวลาในการเล่นโทรศัพท์มือถือว่าเวลาไหนควรเล่น เวลาไหนไม่ควรเล่น เพื่อที่เจ้าตัวเล็กจะปรับตัวได้ถูก
7.พยายามอ่านหนังสือหรือนิทานให้ฟังก่อนนอน
เป็นปกติของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นกับการไม่ค่อยสนใจหรือไม่ฟังเวลาที่คุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสือหือเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน อย่าไปน้อยใจหรือเสียใจไปค่ะเพียงแค่เขาไม่มีสมาธิในการฟังเท่านั้น คุณแม่จะต้องงัดทุกกลเม็ดเด็ดในการดึงดูดความสนใจจากลูกน้อยให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญต้องไม่โมโหด้วยนะคะ
8.ลองหาเวลาและโอกาสในการพาลูกน้อยออกไปเที่ยวนอกบ้านบ้าง
แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลองหาเวลาในการพาลูกน้อยออกไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เป็นการเปิดประสบการณ์และบรรยากาศที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน การที่คุณปล่อยให้เขาอุดอู้อยู่แต่ในบ้านนั้นอาจส่งผลให้เขาเกิดการเบื่อหน่ายและไม่อยากอยู่ในบ้าน
9.จัดการอาการเหนื่อยของตัวเองด้วยการพักผ่อน
เป็นการชาร์ตแบตที่ดีที่สุดสำหับคุณพ่อคุณแม่ที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแนะนำให้พักผ่อนอย่างเร่งด่วน โดยการฝากลูกน้อยไว้กับคนที่ไว้ใจได้ เมื่อร่างกายพร้อมค่อยตื่นมาสู่ใหม่
การที่เจ้าตัวเล็กเป็นโรคสมาธิสั้นนั้นไม่ได้รุนแรงอย่างที่คุณพ่อคุณแม่กังวลใจไปนะคะ เพียงแค่ต้องให้เวลาแก่เขาบ้าง เพราะโรคนี้จะได้ใช้ระยะเวลานานสำหรับการรักษาให้หาย ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่เองจะต้องทำความเข้าใจด้วยว่าอาการแบบนี้คุณจะมาอาวะลาดหรือโมโหใส่เขาไม่ได้ จะต้องค่อยๆปรับจูนกันไป เชื่อเลยนะคะ 100% ความรักของคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้หายขาดได้
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..