อาการท้องร่วง หรือท้องเสีย เป็นภาวะการขับถ่ายที่ผิดปกติ ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาหารเป็นพิษ หรือลำไส้อักเสบก็เป็นได้ ซึ่งทุกคนทราบกันดีว่าเมื่อมีอาการดังกล่าวสิ่งสำคัญคือจะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ และดื่มเกลือแร่ร่วมด้วย หลายคนเลือกที่จะทานยาแก้ท้องเสียเพื่อบรรเทาอาการ และอีกหนึ่งตัวช่วยก็คือ ผงถ่านแก้ท้องเสีย หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ วันนี้เราเลยมีข้อมูลเกี่ยวกับ คาร์บอนแก้ท้องเสีย มาฝากจะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้หรือไม่นั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า
มารู้จักกับยา คาร์บอนแก้ท้องเสีย กันก่อน
คาร์บอนแก้ท้องเสีย หรือ ผงถ่านแก้ท้องเสียเป็นแร่ธาตุคาร์บอน หรือเรียกง่าย ๆ ว่าผงถ่าน โดยเป็นผงถ่านที่ใช้ในเกรดยา ไม่ใช่ผงถ่านโดยทั่วไป ซึ่งตัวยาก็จะมีคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการออกฤทธิ์ในการดูดซับสารพิษและแบคทีเรีย จึงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย หรือถ่ายท้องได้ ปัจจุบันจึงกลายมาเป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีความจำเป็นไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะมองดูว่าการกินคาร์บอนเพื่อบรรเทาอาการท้องเสียจะไม่เป็นอันตรายก็ตาม แต่เราก็ควรใช้ยาในปริมาณที่เหมาะสมและถูกต้องมากที่สุด
คาร์บอนแก้ท้องเสีย กินอย่างไร
เมื่อมีอาการท้องเสียเกิดขึ้นเรามักจะดื่มน้ำเกลือแร่ หรือเลือกทานยาแก้ท้องเสีย และอีกหนึ่งตัวยาที่นิยมใช้เมื่อมีอาการท้องเสียก็คือ คาร์บอนแก้ท้องเสีย เนื่องจากสามารถทานได้ง่าย โดยมีวิธีการกินคือ
- คาร์บอนแก้ท้องเสีย ควรกินตอนท้องว่างจะได้ผลดีกว่า
- คาร์บอนแก้ท้องเสีย โดยปกติแล้วควรกินครั้งละ 3 – 4 เม็ด โดยสามารถดูได้จากเอกสารกำกับยาประกอบด้วยได้เลย เนื่องจาก ผงถ่านแก้ท้องเสีย มีขายในท้องตลาดหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีปริมาณคาร์บอนที่แตกต่างกันออกไป
- ในช่วงของเวลาการกิน คาร์บอนแก้ท้องเสีย ควรกินทุก ๆ 4 – 6 ชั่วโมง หรือวันละ 2 – 3 ครั้ง ตามเอกสารกำกับยาที่กำหนดได้เลย ไม่ควรกินยาเกินขนาดหรือในปริมาณที่มากเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ข้อควรระวังในการกินยา คาร์บอนแก้ท้องเสีย
นอกจากจะต้องกิน คาร์บอนแก้ท้องเสีย อย่างถูกต้องแล้วก็มีข้อควรที่จะต้องระวังด้วยเช่นกัน คือ เมื่อกินคาร์บอนเข้าไปจะไม่มีการดูดซับสารพิษ หรือสารเคมี หรือแบคทีเรียต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย แต่คาร์บอนจะดูดซับสารต่าง ๆ ข้างต้นแล้วขับออกมาทางอุจจาระจึงอาจทำให้อุจจาระมีสีดำขึ้นได้ หรือ หากต้องกินคาร์บอนร่วมกับยาชนิดอื่น ๆ ควรเว้นระยะเวลาหลังการกินคาร์บอนก่อนยาชนิดอื่นอย่างน้อยประมาณ 2 ชั่วโมง และ เมื่อต้องกินคาร์บอนแล้วต้องการดื่มนม หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม เช่น โยเกิร์ต หรือไอศกรีม ควรกินหลังจากกิน คาร์บอนแก้ท้องเสียอย่างน้อย 2 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน
คำแนะนำในการบรรเทาอาการท้องเสียด้วยตัวเอง
ปัจจุบันเราจะเห็นว่า คาร์บอนแก้ท้องเสีย มีจำหน่ายตามร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อโดยทั่วไป และทุกคนก็สามารถหาซื้อได้เองเมื่อต้องการ และเลือกซื้อในแบบที่ต้องการได้ด้วย เนื่องจากคาร์บอนมีหลายแบบให้เลือกเยอะมาก ๆ ซึ่งนอกจากการกินคาร์บอนเพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้แล้ว คุณสามารถดูแลบรรเทาอาการท้องเสียด้วยตนเองง่าย ๆ ได้ดังนี้
1. เมื่อเกิดอาการท้องเสียสิ่งสำคัญอันดับแรกที่คุณจะต้องทำ และไม่ควรละเลยนั่นก็คือการดื่มน้ำ หรือดื่มน้ำผสมผงน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) เรื่อย ๆ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ และเกลือแร่ในร่างกาย เพราะหากร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมากอาจนำไปสู่ภาวะช็อคหมดสติ และถึงขั้นเสียชีวิตได้
2. นอกจากการทานคาร์บอนจะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้แล้วการรับประทานยาบรรเทาอาการท้องเสีย อย่างเช่น (Diosmectitie) ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องเสียให้ทุเลาลงได้ ซึ่งตัวยาจะช่วยยับยั้งเชื้อ แบคทีเรีย และบรรเทาอาการท้องเสียได้
3. ระหว่างที่กำลังท้องเสียนั้นควรดูแลตนเองด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ซุป พยายามหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสจัด รวมไปถึงของหมักดอง และอาหารที่มีไขมันสูง เพราะจะยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้
4. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะเมื่อคุณเกิดอาการท้องเสียมักจะไม่มีแรง ร่างกายอ่อนแรง อ่อนเพลียเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเมื่อทานอาหารที่มีประโยชน์และทานยาบรรเทาอาการแล้ว ก็ควรที่จะพักผ่อนให้เพียงด้วยเช่นกัน
5. หากอาการท้องเสียที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะทานยาแก้ท้องเสีย หรือทานคาร์บอน อาการก็ยังไม่ทุเลาลง แนะนำให้คุณรีบพบแพทย์ในทันที เพื่อหาสาเหตุของการอาการท้องเสีย และเพื่อจะได้รักษาด้วยยาที่เหมาะสม เพราะอาการท้องเสียในบางรายนั้นไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดจากอาหารเป็นพิษเท่านั้น แต่อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมายได้ด้วยเช่นกัน การพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงจึงดีกว่าแน่นอน
ดังนั้นคาร์บอนแก้ท้องเสียจึงเป็นอีกหนึ่ง ยาสามัญประจำบ้าน ที่มีความจำเป็นในการช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย แต่อย่างไรก็ตามหากคุณจำเป็นต้องใช้ยาตัวนี้เพื่อบรรเทาอาการท้องเสียควรใช้ด้วยความระมัดระวัง หรือหากใช้แล้วพบว่าอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้คุณพบแพทย์ดีกว่า เพราะหากปล่อยให้เกิดอาการท้องเสียเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้และหากร่างกายขาดน้ำอาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นได้
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook