สิวกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เรื่องสิว ๆ เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณผู้หญิงหลายคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่กำลังเป็นแม่คน คงกังวลใจอยู่ไม่น้อย ไม่รู้จะรักษาสิวอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกน้อย ทำให้เกิดคำถามหนึ่งที่ว่า “คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นสิว สามารถฉีดสิวได้หรือไม่” หาคำตอบไปพร้อมกัน มาดูสิว่า คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นสิวแล้วต้องทำอย่างไร
ปัญหาเรื่องสิวกับคุณแม่ตั้งครรภ์
เราเชื่อว่า ปัญหาเรื่องสิวเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะคุณแม่ที่รักสวยรักงามด้วยแล้ว คงจะหนักใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เนื่องจากตนเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งปัญหาสิวในช่วงตั้งครรภ์นี้ ถือเป็นเรื่องปกติสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ นั่นเป็นเพราะการตั้งครรภ์ จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปลี่ยนแปลงไป บางคนจากที่ไม่เคยเป็นสิวเลย ก็จะมีสิวขึ้นมาเยอะมาก หรือบางคนจากที่เป็นสิวบ่อย ๆ เมื่อตั้งครรภ์ก็อาจเป็นสิวน้อยลงก็มีค่ะ สำหรับในเรื่องของฮอร์โมนเพศนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับร่างกายของคุณแม่แต่ละคน เรื่องสิวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่การรักษาสิวอาจเป็นปัญหาใหญ่ คุณแม่อยากลืมนะคะว่า ยังชีวิตเล็ก ๆ กำลังเจริญเติบโตอยู่ภายในร่างกายของคุณแม่ ดังนั้นควรรักษาสิวอย่างระมัดระวังให้มาก
คุณแม่ตั้งครรภ์ฉีดยารักษาสิวได้หรือไม่
ในการรักษาสิวในขณะตั้งครรภ์ เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับแพทย์ เนื่องจากยาที่ใช้กันบ่อย ๆ ส่วนมากมีฤทธิ์รุ่นแรง ไม่เหมาะสมกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะมีผลต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นยาที่ใช้รับประทานหรือป้ายให้ออกฤทธิ์เฉพาะที่ ล้วนแต่มีผลกระทบต่อเด็กทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น คุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงการรักษาสิวโดยวิธีต่าง ๆ หรือถ้าต้องการจะรักษาสิวในระหว่างตั้งครรภ์จริง ๆ คุณแม่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งนะคะ เพื่อความปลอดภัยต่อลูกน้อย
การรักษาสิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ นั้นถือเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก โดยเฉพาะยารักษาสิวทั่วไปในกลุ่มของกรดวิตามินเอ หรือเรตินอยด์ ไม่ว่าจะใช้ทาหรือรับประทาน ควรหลีงเลี่ยงโดยเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ สามารถทำให้ทารกเกิดความผิดปกติ หรือพิการได้เลยทีเดียว ทั้งนี้ถ้าใครที่ใช้ยารักษาสิวในกลุ่มนี้อยู่ ควรจะคุมกำเนิดอย่างน้อย 1 เดือนก่อนใช้ยาด้วยนะค่ะ ถึงจะไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่ในกรณีของการฉีดสิวนั้น โดยทั่วไปจะเป็นการฉีดเพื่อลดอาการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบลง ซึ่งส่วนใหญ่จะฉีดที่บริเวณหัวสิวในปริมาณน้อย โดยตัวยาที่ใช้ฉีดส่วนใหญ่ จะเป็นสเตียรอยด์ และยาชา ซึ่งในทางการแพทย์ยังไม่มีรายงานชัดเจนว่าเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ถึงแม้จะฉีดได้ แต่ก็จัดเป็นยาที่อยู่ในกลุ่มที่แพทย์จะต้องเป็นผู้จัดให้ แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนเพื่อความปลอดภัยค่ะ
วิธีการรับมือเมื่อเป็นสิวตอนท้อง
การรักษาสิวตอนท้องไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากยาที่ใช้รักษาสิวทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวยาที่แพทย์สั่งหรือ ซื้อตามร้านขายยาล้วนมีส่วนประอบกของสารเคมีที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้หญิงตั้งครรภ์ทั้งนั้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามว่า ยารักษาสิวชนิดใด ที่ปลอดภัย และควรดูแลผิวอย่างไรเพื่อป้องกันการเกิดสิวขณะท้อง
ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ ผิวของคุณแม่อาจต้องการดูแลเพิ่มขึ้น คุณอาจจะลองล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยสบู่หรือเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนต่อสุขภาพผิว หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง ทำให้หน้าของคุณแห้งหลังล้างหน้า เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้า และเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ คุณยังสามารถลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์กับผิวของคุณแม่อีกด้วย
ยารักษาสิวที่ไม่ปลอดภัยระหว่างตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง
- เรตินอล (วิตามินเอ) คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนประกอบของกรดวิตามินเอขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณมีการสะสมวิตามินเอมากขึ้น ส่งผลให้ ระดับวิตามินเอในเลือดสูงมากจนทำให้เกิดความผิดปกติของเด็ก เพราะการรับประทานอาหารทั่วไปก็มี วิตามินเอ อยู่แล้ว แต่ถ้าร่างกายของคุณแม่ได้รับมากเกินไป จะส่งผลให้เด็กทารกในครรภ์พิการได้ ดังนั้นคุณแม่ควรหยุดทันที ถ้ารู้ว่าผลิตภัณฑ์รักษาสิวมีส่วนประกอบของ เรตินอล เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์
- ยารักษาสิว หรือยาปฏิชีวนะ เช่น เตตร้าไซคลิน (Tetracycline) เป็นยารักษาสิวที่อันตรายที่สุด เพราะส่งผลต่อการสร้างกระดูกและฟันของลูก ถ้าใช้ในผู้หญิงตั้งครรภ์ ระหว่าง 6 – 8 เดือน หลังจากใช้ยานี้จะมีผลไปจับแคลเซียมที่กระดูกและฟันของเด็กทารก ทำให้เด็กมีกระดูกและฟันไม่สมบูรณ์ ฟันเป็นสีเหลือง และน้ำตาลไปตลอดชีวิต และยังทำให้การเจริญของกระดูกและสมองผิดปกติไปด้วย นอกจากนี้ ถ้าใช้ในปริมาณที่สูงมาก จะเกิดการทำลายตับของคุณแม่อย่างรุนแรง คุณแม่อาจเสียชีวิตได้
- กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) คำแนะนำของการใช้ผลิตที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเข้มข้น รวมถึงการทานยาที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก จะทำให้สารเคมีเข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณมาก จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับทารกแรกเกิด รวมถึงเกิดอาการแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้
วิธีรับมือกับสิวด้วยธรรมชาติ
คุณแม่ที่ต้องการรักษาสิวจริง ๆ แนะนำให้เลือกวิธีธรรมชาติจะดีที่สุด คุณแม่ลองหายารักษาสิวที่มีส่วนประกอบจากสารสกัดธรรมชาติดู ตัวที่ได้ผลดีที่สุด ก็คือ สารธรรมชาติสกัดจาก ต้น Tea Tree หรือ ต้นชาออสซี่ คุณแม่สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสารสกัด tea tree หรือถ้าต้องการให้เห็นผลเร็วขึ้น คุณแม่ก็สามารถใช้สารสกัดต้น tea tree บริสุทธิ์มาใช้แต้มสิวโดยตรงก็ได้ค่ะ นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถใช้สารสกัดจากชาเขียว และเฮเซลนัท ที่มีคุณสมบัติต่อต้านสิวมาใช้เช็ดหน้าแทนก็จะดีมากเลยค่ะ ข้อดีของการใช้สารสกัดจากธรรมชาติไม่มีอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่คุณแม่ควรจะปรึกษาแพทย์ทุกครั้งถ้าต้องการใช้ยาเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อยที่คุณรักค่ะ้
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..