ด้วยวัยที่ยังไม่ทันระมัดระวังตัว อาการหัวโน ข้อเท้าแพลง ศีรษะกระแทก เป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับบ้านที่มีลูกน้อยวัยเตาะแตะ หรือวัยเด็ก ส่วนใหญ่แล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมักจะมาจากความไม่ได้ตั้งใจ คาดไม่ถึง เช่น ตกเตียง อุบัติเหตุทางรถยนต์ ลื่น ล้มเป็นต้น ซึ่งจะทำให้ลูกหัวโนหรือข้อเท้าแพลงได้ โดยหากลูกมีอาการเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีการดูแล ปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยเฉพาะการประคบร้อนประคบเย็น ซึ่งต้องทำอย่างไรนั้นมาดูกันเลย
ประคบร้อน คืออะไร ใช้เมื่อไหร่
สำหรับการประคบร้อน เป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่เกิดการเจ็บปวด ตึง เกร็ง อย่างเช่น กล้ามเนื้อ รอยต่อ หรือเส้นเอ็น ซึ่งการประคบร้อนจะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ลูกน้อยรู้สึกผ่อนคลาย ความร้อนจะเข้าไปทำหน้าที่ในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่กล้ามเนื้อ และฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย
วิธีการประคบร้อน
สำหรับการประคบร้อน ก็จะมีวิธีการดังต่อไปนี้
1. ในการประคบร้อนนั้น จะเริ่มใช้กันก็ต่อเมื่อ มีอาการหรือผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นไปแล้ว 48 ชั่วโมง โดยการประคบให้ทำวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 15-20 นาทีจะช่วยลดอาการปวดผ่อนคลายตามกล้ามเนื้อ คุณแม่สามารถใช้วิธีการประคบร้อนได้ก็ต่อเมื่อ มีอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อบริเวณคอ มาจนถึงบ่าและหลัง ปวดน่องเนื่องจากเดินมาก
2. อุปกรณ์ในการประคบร้อนคุณแม่สามารถใช้ได้ทั้งเจลสำหรับประคบร้อนแบบสำเร็จรูป ผ้าขนหนูชุบน้ำ หรือลูกประคบ อุณหภูมที่เหมาะสมจะต้องไม่เกิน 45 องศา
3. อุณหภูมิที่ใช้ในการประคบ จะต้องพอดีไม่ร้อนมากจนเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกปวดแสบร้อนบริเวณที่ประคบได้ ซึ่งคุณแม่เองจะต้องมั่นใจได้ว่าบริเวณที่คุณจะประคบของลูกน้อยไม่มีแผลหรือเลือดออกแต่อย่างไร ไม่อย่างนั้นจะมีอาการปวดและอักเสบเข้าไปอีก รอให้ทุเลาหรือมีการอักเสบลดน้อยลงแล้วค่อยประคบก็ได้ค่ะ
4. ข้อดีของการประคบร้อน เข้ามาช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดอาการปวดบวมได้เป็นอย่างดี รู้หรือไม่ว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อที่ตึงคลายตัวลง อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย เสียหายให้กลับมาทำงานได้เร็วขึ้นอีกด้วย
ประคบเย็น คืออะไร ใช้เมื่อไหร่
การประคบเย็น เป็นวิธีที่คุณแม่หลายๆ คนเลือกใช้เพื่อลดอาการปวดบวม และเกิดการอักเสบ เวลาที่ลูกน้อยเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย สำหรับการประคบเย็นนี้เป็นการปฐมพยาบาลที่รวดเร็วที่สุด เนื่องจากคุณแม่สามารถหาอุปกรณ์ได้ง่ายจากของใช้ที่มีอยู่ภายในบ้าน อย่างน้ำแข็ง ทั้งนี้การที่คุณแม่จะเลือกใช้วิธีการประคบเย็นแก่ลูกน้อยจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสม และควรทำอย่างระมัดระวัง หากมีการประคบที่นานและเย็นจนเกินไปนั้นอาจส่งผลให้เนื้อเยื่อผิวตายได้
วิธีการประคบเย็น
มาดูวิธีการประคบเย็นที่ถูกต้องกันเลย ว่าควรทำอย่างไร
1. กรณีที่ลูกน้อยมีอาการเจ็บปวด หรือได้รับบาดเจ็บนั้น แนะนำให้ประคบด้วยน้ำแข็งหรือน้ำเย็นทันที โดยประคบวันละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 20 นาทีต่อครั้ง
2. กรณีที่คุณจะสามารถประคบเย็นได้นั้นจะต้องมีอาการ ปวดศีรษะ ไข้สูง ปวดฟัน อาการบวมที่ข้อเท้า เกิดการบาดเจ็บใหม่ๆ กำเดาไหล เป็นต้น
3. ในการประคบเย็นนั้นคุณแม่สามารถใช้เจลแบบเย็น หรือถุงน้ำแข็งที่สามารถทำขึ้นเองได้ด้วยการใช้ถุงพลาสติกใส่น้ำไปแช่แข็ง
4. ข้อดีที่คุณแม่เลือกใช้การประคบเย็น สามารถใช้ได้ทั่วทั้งร่างกาย โดยที่ความเย็นนั้นจะเข้าไปบรรเทาอาการคันปวด บวม ได้เป็นอย่างดี
วิธีอื่นๆ ในการบรรเทาเมื่อลูกหัวโน
นอกจากประคบร้อน ประคบเย็นแล้ว ก็สามารถบรรเทาด้วยวิธือื่นๆ ได้อีก นั่นก็คือการรักษาอาการหัวโนของลูกน้อยด้วยดินสอพองนั่นเอง ทั้งนี้เชื่อเลยว่าคุณแม่ทุกๆ ท่านคงจะรู้และมีประสบการณ์ตอนวัยเด็กเป็นอย่างดี กับอาการหัวโนจนหัวปูดออกมาเป็นลูกมะกรูด ผู้ใหญ่จะนำดินสอพองบีบมะนาวลงไปเล็กน้อยแล้วมาพอกบริเวณหัวที่ปูดออกมา และบอกได้เลยว่าได้ผลดีไม่น้อยเลย เพราะรอยปูดนั้นจะค่อยๆ ยุบ และลดอาการปวดได้ดีมาก
หากลูกมีอาการแบบนี้ ต้องรีบพบหมอ
กรณีที่ลูกน้อยศีรษะกระแทกรุนแรง เช่นตกจากที่สูง หรือกระทบกระเทือน อาจมีสัญญาณอันตรายบางอย่างที่คุณแม่จะต้องรีบพาไปพบคุณหมอ เพราะอาจกระทบกระเทือนถึงสมองหรือตกเลือดได้ โดยอาการที่เสี่ยงได้แก่
- เมื่อลูกน้อยมีอาการเวียนหัว ปวดหัวอย่างรุนแรง ตาพล่ามัว เมื่อลูกขึ้นเสียการทรงตัว อ่อนแรง
- เกิดการอาเจียน หรืออาเจียนเป็นเลือด ไม่เลือดออกจากปาก จมูกและหู
- ลูกน้อยมีอาการหายใจลำบาก หายใจไม่ออก พูดไม่ชัดติดขัด คุณแม่รู้สึกได้ว่าลูกพูดไม่ปกติ
- มีอาการหงุดหงิดง่าย หรือตรงกันข้ามคือเซื่องซึม เงียบ ภายหลังจากการเกิดอุบัติเหตุ
หากลูกน้อยเกิดอุบัตเหตุขึ้นมาแล้วเจอกับอาการเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ หรือละเลยอย่างเด็ดขาด จะต้องรีบพาไปพบคุณหมอ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เรามองไม่เห็นนั้นอาจร้ายแรงกว่าที่เราคิดก็เป็นไปได้
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..