หลอดลมอักเสบในเด็ก ปัญหาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของเด็ก ๆ นั้นมักจะเกิดขึ้นมากกว่าผู้ใหญ่ หากไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แต่บ่อยครั้งเด็ก ๆ บางรายก็อาจมีความแข็งแรงน้อยกว่าเด็กอื่น ๆ อันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ หลายประการด้วยกัน

ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่นั้นก็หวังให้ลูกของตนเองมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และปลอดภัยจากโรคต่าง ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น โรคที่พบบ่อยในเด็กอย่างโรคหลอดลมอักเสบในเด็ก ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่พ่อแม่ควรระมัดระวัง เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถวินิจฉัยได้ยากมาก และมักจะมีอาการคล้ายกับการเป็นหวัดโดยทั่วไป เมื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นและเป็นแนวทางในการป้องกันรักษาลูกน้อยให้ปลอดภัยจากโรคหลอดลมอักเสบวันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้มาฝากกันคะ

โรคหลอดลมอักเสบในเด็ก

โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) ในเด็ก คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อที่บริเวณหลอดลม ที่อยู่ลึกลงไปจากกล่องเสียงไปยังปอดส่วนล่าง อยู่ตรงกลางระหว่างทางเดินหายใจส่วนบน (จมูก ลำคอ ท่อลม) และทางเดินหายใจส่วนล่าง (ปอด) เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุดโรคหนึ่งของเด็ก ๆ และมักเป็นอาการที่ทำให้เด็กต้องมาพบแพทย์ จากรายงานทางการแพทย์ยังพบด้วยว่าในแถบยุโรปนั้นพบการเกิดโรคนี้ได้ประมาณ 20-30% ของเด็กนักเรียน โรคหลอดลมอักเสบนั้นสามารถพบได้ในเด็กทุกวัย และพบมากสุดในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 9 – 15 ปี ซึ่งเกิดกับในเด็กหญิงและชายไกล้เคียงกัน

โรคหลอดลมอักเสบในเด็กเกิดขึ้นได้อย่างไร

โรคหลอดลมอักเสบในเด็กมีสาเหตุมาจากเชื้อโรคทั้งสิ้น โดยพบเชื้อโรคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. เกิดจากเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่ โรคหัด ไวรัสอาร์เอสวี (RSV, Respirato ry syncytial virus) โดยที่สาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสนั้นพบมากที่สุด
  2. เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น นิวโมคอคคัส (Pneumococcus) ฮีโมฟิลุส อินฟลูเอนเซ (Haemophilus influenzae) เชื้อไมโคพลาสมา (Mycoplasma) เชื้อไอกรน แต่ทั้งนี้เชื้อเหล่านี้ก็พบได้น้อยกว่าเชื้อไวรัส

อาการของโรคหลอดลมในเด็ก

อาการโดยส่วนใหญ่นั้นจะคล้ายกับการเป็นไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ จะมีน้ำมูกไหล ไอเล็กน้อย เมื่อผ่านไป 2-3 วันเชื้อจะลุกลามไปยังหลอดลม ส่งผลให้มีการไอมากขึ้น ไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะ หลังจากนั้นอาจลุกลามจนกลายมาเป็นโรคปอดอักเสบ หรือปอดบวมได้ (ปอดอักเสบในเด็ก, โรคปอดบวมในเด็ก) อาการโดยส่วนใหญ่ของโรคหลอดลมอักเสบจะหายเป็นปกติดีเมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากมีอาการของโรค

แนวทางในการดูแลรักษาโรคหลอดลมอักเสบในเด็ก

เนื่องจากว่าโรคหลอดลมอักเสบนั้นเกิดขึ้นจากไวรัสเกือบทั้งหมด จึงไม่มียาที่จำเพาะสำหรับการรักษา เว้นแต่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากเชื้อไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่ ที่จะมียาต้านทานไวรัสไข้หวัดใหญ่รักษาได้  สำหรับยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียนั้นมักไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักเมื่อติดเชื้อโรคจากไวรัส เนื่องจากว่ายาปฏิชีวนะนั้นไม่สามารถฆ่าไวรัสได้นั่นเอง

สำหรับการดูแลเด็กที่เป็นโรคหลอดลมอักเสบ ผู้ดูแลจะต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์ โดยให้เด็กดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ และอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ปิดปากหรือจมูกเวลาไอ หรือจาม ล้างมือบ่อย ๆ และให้พักผ่อนมาก ๆ เมื่อมีไข้หรือไอมาก ๆ ควรให้หยุดโรงเรียนเพื่อพักผ่อนและเป็นการลดโอกาสในการเกิดโรคแพร่กระจายไปสู่เด็กอื่น ๆ

หากพบอาการดังต่อไปนี้ควรรีบนำเด็กไปพบแพทย์โดยเร่งด่วน

Sponsored
  • มีอาการไข้สูงไม่ลดลงเลยใน 48 ชั่วโมง ภายหลังกินยาลดไข้ มีอาการไอมาก ซึม เพลีย และมีอาการอาเจียน หรืออาการอื่น ๆ ที่ผู้ปกครองคิดว่าอาการรุนแรงหรือเกิดความรู้สึกกังวลใจ

โดยทั่วไปแล้วโรคหลอดลมอักเสบในเด็กนั้นไม่มีความรุนแรงมากนัก สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ แต่อาจส่งผลให้ลุกลามไปเป็นปอดอักเสบ หรือปอดบวมในเด็กที่มีความรุนแรงได้ โดยเด็กที่มีความเสี่ยงเกิดโรคหลอดลมอักเสบนั้นมักจะเป็นเด็กที่ขาดอาหารหรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง อย่างเช่น โรคปอด โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเอดส์ และมีภูมิต้านทานโรคต่ำ และสามารถรักษาให้หายขาดได้โดยต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์ แต่โรคนี้จะเกิดผลรุนแรงขึ้นหากเกิดโรคข้างเคียงแทรกซ้อนกลายเป็นโรคปอดอักเสบในเด็ก หรือโรคปอดบวมในเด็ก

เราจะสามารถป้องกันโรคหลอดลมอักเสบได้อย่างไร

การป้องกันโรคหลอดลมอักเสบในเด็กนั้นมีด้วยกันหลายวิธี เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคบางโรค อย่าง โรคหัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไอกรน เนื่องจากโรคต่าง ๆ เหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่มของเชื้อไวรัสที่มีผลให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบนั่นเอง

สอนให้เด็กรู้จักการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยพื้นฐาน เช่น หมั่นล้างมือทำความสะอาดด้วยสบู่ และไม่เล่นคลุกคลีกับเด็กที่ป่วย นอกจากนี้หากเด็กเป็นโรคและป่วยมีไข้ควรให้นอนพักผ่อนให้มากและปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น

อย่างไรก็ตามการดูแลในเรื่องของโภชนาการที่ดี ให้ได้รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่และมีการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้เด็กแข็งแรงและมีภูมิต้านทานโรคมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใส่ใจดูแลจากคุณพ่อและคุณแม่ในเรื่องสุขภาพของลูก ก็จะเป็นการช่วยป้องกันการเกิดโรค และยังทำให้ลูกมีชีวิตที่มีความสุขพัฒนาการสมวัยอีกด้วยค่ะ

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ดัด ยืด ทำสีผมระหว่างตั้งครรภ์ อันตรายหรือไม่

2.ท้องแล้วก็สวยได้....วิธี สวยแบบปลอดภัย สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์