ในเด็กที่กินนมแม่จนหมดสต๊อกแล้ว หรือคุณแม่มีน้ำนมน้อยไม่พอเลี้ยงลูก อาจจำเป็นต้องใช้นมผงมาเลี้ยงทารก ขั้นตอนชงนมที่ถูกวิธีจำเป็นต่อสุขภาพของลูกมาก การเรียนรู้ที่จะชงนมให้ถูกต้องนั้นคุณแม่จำเป็นต้องทำเรียนรู้ วันนี้เรานำวิธีการชงนมที่ถูกต้องมาแนะนำกันค่ะ
การชงนม ควรใช้น้ำแบบไหนดีที่สุด
อุณหภูมิของน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็นในการชง เพราะเป็นตัวควบคุมคุณค่าสารอาหารที่อยู่ในน้ำนม หากใช้น้ำไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้สารอาหารในน้ำนมลดน้อยลงได้ น้ำที่เหมาะสมกับการชงนมให้ลูกคือน้ำต้มสุกที่วางไว้ในอุณหภูมิห้องอุ่นแล้วหรือมีอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส
ขั้นตอนในการชงนมที่ถูกต้อง
วิธีชงนมผง ฟังดูแล้วเหมือนจะง่าย คุณพ่อคุณแม่บางท่านก็คิดว่าวิธีชงนมให้ลูกไม่ได้ยากอะไร แต่การจะชงอย่างถูกวิธีเพื่อให้เด็กปลอดภัยจากการปนเปื้อนเชื้อโรค และได้สารอาหารจากนมอย่างครบถ้วนทำอย่างไรกันบ้างนั้น มาดูกันค่ะ
การเตรียมอุปกรณ์
อุปกรณ์ที่ใช้ในการชงนมประกอบด้วย
- ขวดนม
- ที่นึ่งขวดนมหรือหม้อต้ม
- น้ำต้มสุก
- นมผง
ขั้นตอนการชงนมแบบถูกวิธี
1.ล้างมือให้สะอาด
2.ล้างอุปกรณ์ชงนมและฆ่าเชื้อด้วยความร้อน
3.อ่านรายละเอียดขั้นตอนของวิธีชงนมผง ที่ติดอยู่ข้างกระป๋องนมให้เข้าใจทุกครั้ง
4.น้ำอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป แต่ไม่ถึงกับร้อน ไม่ควรใช้น้ำร้อนชงนม เพราะจะทำให้สารอาหารเสียไปกับความร้อน
5.ตวงน้ำให้ได้ปริมาณที่กำหนด แล้วจึงตักนมผงใส่ในขวด
6.น้ำที่ต้มสำหรับชงนมต้องต้มใหม่ไม่เกิน 30 นาที
สิ่งสำคัญคือต้องใส่น้ำลงไปในขวดนมตามปริมาณที่กำหนดก่อนที่จะตักนมใส่ขวด
การชงนมหากทำไม่ถูกวิธีก็จะทำให้ลูกไม่สบายตัว ท้องอืดหรือ บิดตัวไปมา เด็กบางรายอาจจะร้องไห้งอแงไม่ยอมดูดก็เป็นได้ ฉะนั้นก่อนที่จะชงนมให้ลูกทุกครั้ง ต้องเน้นเรื่องความสะอาดและขั้นตอนที่ถูกต้อง
วิธีชงนมที่ถูกวิธีจะช่วยไม่ให้ทารกท้องอืดโดยมีวิธีการ
1.ต้องใส่น้ำในขวดนมก่อนทุกครั้ง หลังจากนั้นจึงตักนมผงใส่ลงไปในขวดนมที่มีน้ำอยู่แล้ว ในปริมาณที่พอเหมาะตามขนาดและอายุของเด็กที่กำหนดไว้ที่ข้างกระป๋องนม การใส่นมมากเกินไปอาจทำให้เด็กมีอาการท้องผูก หรือหากชงแบบเจือจางใส่น้ำมากไปก็จะทำให้เด็กได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจนเกิดการเจ็บป่วยได้
2.ใช้น้ำที่ต้มสุกและปล่อยทิ้งไว้ให้หายร้อนแล้ว จึงจะมาชมนมจะทำให้นมไม่จับตัวเป็นก้อน และสารอาหารที่อยู่ในนมก็ยังมีอยู่ครบถ้วนไม่ได้ถูกน้ำร้อนทำปฏิกิริยาให้สลายไป นอกจากนี้การใช้น้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว3ส่วน ผสมกับน้ำร้อน1ส่วน จะทำให้นมที่ลูกได้รับมีอุณหภูมิอุ่นกำลังดี กินแล้วสบายตัวไม่มีปัญหาท้องอืด หรือ มีอาการปวดท้อง เหมือนกับที่บางรายอาจใช้น้ำอุณหภูมิห้องอย่างเดียว ซึ่งหากอยู่ในห้องที่เปิดแอร์อาจจะทำให้น้ำมีความเย็น เมื่อผสมกับนมจะทำให้ไขมันในนมยังจับตัวกันเป็นก้อนเมื่อลูกกินเข้าไปทำให้การย่อย และดูดซึมเป็นไปได้ยากจนเกิดแก๊สและมีการปวดท้องตามมา
3.ขั้นตอนการผสมนม ให้ทำเพียงแค่ปิดขวดให้แน่นแล้วหมุนๆ ไปรอบๆ ก็เพียงพอแล้ว ไม่ควรเขย่าขึ้นลงแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดฟองอากาศเมื่อลูกดูดฟองอากาศเข้าไปจะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกมีอาการปวดท้อง ท้องอืดไม่สบาย ถึงแม้ว่าจะจับลูกเรอหลังกินนมแล้วก็ตาม แต่อาจมีลมบางส่วนยังหลงเหลืออยู่ในกระเพาะและลำไส้ของลูก จึงทำให้ลูกมีอาการปวดท้อง
4.ชงนมในปริมาณที่พอดีกับลูกกินแต่ละมื้อ การชงนมไม่ควรชงให้ลูกมากจนเกินไปจนลูกกินไม่หมด และในคุณแม่บางรายก็อาจจะป้อนยัดเยียดเพื่อให้ลูกกินนมให้หมดขวด จนทำให้ลูกมีอาการท้องอืด ปวดท้อง หรือในบางรายอาจจะเก็บนมที่ลูกกินไม่หมดไว้ในคราวต่อไป แต่นมที่ลูกกินไม่หมดไม่ควรเก็บนานเกิน 1 ชั่วโมง หลังจากที่ชงเพราะจะทำให้มีเชื้อโรคที่ปะปนกับน้ำลายขณะลูกดูดเจริญเติบโตและเมื่อลูกกินเข้าไปจะทำให้ลูกมีอาการท้องเสียได้
5.การป้อนนมลูก หากยังเป็นเด็กเล็กไม่ควรป้อนให้ลูกกินครั้งเดียวหมด ควรเว้นระยะโดยอุ้มลูกให้เรอเป็นครั้งคราว และป้อนใหม่จนกว่านมจะหมดขวด หรือลูกอิ่ม เพื่อป้องกันปัญหาเด็กเล็กที่แหวะนม
การดูแลทำความสะอาดขวดนม
หลังจากลูกกินนมแล้วต้องนำไปล้างทำความสะอาดทันที เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมเชื้อโรคในขวดนม ซึ่งวิธีการทำความสะอาดขวดนมมีดังนี้
1.นำขวดนมไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างขวดนม โดยใช้แปรงล้างขวดนมล้างขวดนม ฝาครอบ จุกนมให้สะอาด
2.นำขวดนมที่ล้างทำความสะอาดแล้วเข้าไปนึ่งในตู้นึ่งขวดนม และเมื่อนึ่งจนครบเวลาแล้วใช้คีมคีบที่มาเก็บไว้ในกล่องที่มีฝาปิดสนิท
การเก็บรักษานมที่ชงแล้ว
นมที่ชงแล้วหากลูกกินไม่หมดภายใน 2 ชั่วโมงจะต้องเททิ้ง ไม่ควรนำมาให้ลูกกินซ้ำเพราะจะทำให้ได้รับเชื้อโรคที่เจริญเติบโตอยู่ในขวดนมจนทำให้เกิดอาการท้องร่วงท้องเสียได้
การเลี้ยงดูเด็กมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการชงนมอย่างถูกวิธี คนที่ทำหน้าที่เลี้ยงเด็กจะต้องมีความรู้และศึกษาถึงวิธีชงนมอย่างถูกวิธี รวมถึงการดูแลเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ชงนม ตลอดจนเรื่องเกี่ยวกับเด็ก ซึ่งเมื่อมีการดูแลเอาใจใส่อย่างละเอียดทุกขั้นตอนแล้ว การเลี้ยงดูเด็กก็จะไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพของเด็กตามมา ซึ่งเป็นผลดีที่ทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตแข็งแรงได้ตามวัย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนให้เสียสุขภาพจิตของคนเลี้ยง และของเด็กนั่นเอง
อ้างอิง who.int
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/