ยาบำรุงเลือด หรือยาเสริมธาตุเหล็ก เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนจะต้องได้ยาตัวนี้เมื่อไปฝากครรภ์ครั้งแรกเสมอ และจะได้รับยาบำรุงเลือดอย่างต่อเนื่องไปจนตลอดการตั้งครรภ์และหลังจากคลอดต่อเนื่องไปประมาณ 2-3 เดือนอีกด้วย แล้วเคยสงสัยไหมว่า เพราะอะไรเมื่อไปฝากครรภ์ หมอจึงต้องให้ยาบำรุงเลือดและมีความจำเป็นมากแค่ไหน วันนี้เราจะพาคุณไปหาคำตอบกันดู

ฝากครรภ์ ทำไมหมอต้องให้ ยาบำรุงเลือด

ความสำคัญของยาบำรุงเลือด (ธาตุเหล็ก)

ยาบำรุงเลือดหรือยาเสริมธาตุเหล็ก เป็นยาบำรุงที่ความจำเป็นต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะยาบำรุงเลือดมีความสำคัญดังต่อไปนี้

เป็นส่วนประกอบของฮีโมโกลบิน

โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจำเป็นต้องได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในขณะกำลังตั้งครรภ์ เพราะธาตุเหล็กถือเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญมากของฮีโมโกลบิน โดยจะช่วยให้มีการขนส่งออกซิเจนเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังทำให้เซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

ที่สำคัญในหญิงตั้งครรภ์ พบว่าหากร่างกายของคุณแม่มีระดับของฮีโมโกลบินต่ำ เนื่องมาจากได้รับธาตุเหล็กน้อยเกินไป ก็จะส่งปลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ เช่น เกิดการคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวของทารกต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ทารกมีความผิดปกติหรือเสี่ยงต่อการแท้งได้สูง นอกจากนี้หลังคลอดคุณแม่ก็อาจจะเสี่ยงต่อการตกเลือดได้อีกด้วย ดังนั้นการทานยาบำรุงเลือดในขณะตั้งครรภ์ จึงมีความสำคัญและจำเป็นไม่น้อยเลยทีเดียว

ปริมาณธาตุเหล็กที่ควรได้รับต่อวัน

สำหรับปริมาณของธาตุเหล็กที่ควรได้รับต่อวันในขณะกำลังตั้งครรภ์ ก็คือ 27 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งปริมาณดังกล่าวนี้หากทานจากอาหารเพียงอย่างเดียวมักจะได้รับไม่เพียงพอ และอาจทำให้เกิดภาวะการขาดธาตุเหล็กได้ ดังนั้นแพทย์จึงจำเป็นต้องให้ยาเสริมธาตุเหล็กหรือที่เรียกกันว่ายาบำรุงเลือด เพื่อให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับธาตุเหล็กในปริมาณที่เหมาะสมและไม่มีปัญหาต่างๆ ตามมานั่นเอง นอกจากนี้หลังคลอดก็เป็นช่วงที่คุณแม่เสียเลือดเยอะ จึงต้องได้รับยาเสริมธาตุเหล็กอย่างต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยประมาณ 2-3 เดือน เพื่อเป็นการปรับสมดุลของเม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบินในร่างกายใหม่ และลดการเกิดภาวะเลือดจางอีกด้วย

ผลข้างเคียงจากการทานยาบำรุงเลือด (ธาตุเหล็ก)

การทานยาบำรุงเลือดหรือยาเสริมธาตุเหล็ก มีผลข้างเคียง คือจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ ดังนั้นในช่วงแรกของการตั้งครรภ์คือช่วง 3 เดือนแรกที่ยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ แพทย์จึงมักจะยังไม่ให้ยาตัวนี้ก่อน เพราะอาจไปกระตุ้นให้เกิดการแพ้ท้องหนักกว่าเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเริ่มให้ยาเสริมธาตุเหล็กเมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ได้ 4 เดือนขึ้นไปหรืออาจพิจารณาจากอาการแพ้ท้องของคุณแม่ โดยจะเริ่มให้เมื่อหมดอาการแพ้ท้องแล้ว

Sponsored

คำแนะนำในการทานยาบำรุงเลือด

การทานยาบำรุงเลือดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แนะนำให้ทานร่วมกับวิตามินซี เพราะจะช่วยเสริมให้เกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นผลให้คุณแม่ได้รับปริมาณของธาตุเหล็กต่อวันอย่างเหมาะสมที่สุด และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการทานธาตุเหล็กร่วมกับชา นมหรือกาแฟ เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปลดประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็กให้ต่ำลง จึงทำให้ปริมาณธาตุเหล็กที่ได้รับไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นเมื่อต้องทานธาตุเหล็กเสริม ควรทานให้ห่างจากอาการเหล่านี้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ทีนี้ก็คงพอจะเข้าใจกันแล้วใช่ไหมเอ่ย ว่าเพราะอะไรแพทย์จึงต้องให้ยาบำรุงเลือดหรือยาเสริมธาตุเหล็กกับคุณแม่ตั้งครรภ์ และต้องทานอย่างต่อเนื่องไปจนกระทั่ง 2-3 เดือนหลังคลอดเลยทีเดียว โดยเมื่อธาตุเหล็กมีความสำคัญอย่างนี้ คุณแม่ก็อย่าละเลยการทานธาตุเหล็กในขณะตั้งครรภ์เด็ดขาด

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.แพ้ท้องระดับไหน เช็คสิ อาการแพ้ท้องของคุณ รุนแรงหรือไม่

2.10 อาหารวิตามินบี 6 สูง ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ดี