หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีปัญหาเลือดออกขณะตั้งครรภ์ อย่าได้ละเลยกับเรื่องนี้ ควรสังเกตุอาการให้ดี หากประเมินแล้วว่ามีแนวโน้มว่าจะมีความผิดปกติเกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาทันที ซึ่งอาการแบบไหนที่มีความเสี่ยง หรือแบบไหนควรเฝ้าระวังในการดูแลสุขภาพมากขึ้น วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

เลือดออกขณะตั้งครรภ์ เกิดจากอะไร

ปกติแล้วอาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ นั้น จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน และสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุดังนี้

1.เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อน

อาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนที่เยื้อบุโพรงมดลูกอาจไปถูกเส้นเลือดฝอย จนทำให้มีการฉีกขาดจนเลือดไหลออกมาได้ มักจะเกิดขึ้นหลังจากการปฏิสนธิแล้วประมาณ 21 วัน นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย โดยเลือดจะออกมาแบบกะปริบกะปรอยมีสีแดงอ่อนๆ ไม่มีอาการปวดท้อง ซึ่งอาการนี้ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสัญญานบอกถึงความเป็นแม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นเอง

2.เกิดจากภาวะแท้งคุกคาม

ภาวะแท้งคุกคามมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ การตั้งครรภ์โดยไม่มีตัวอ่อน ความผิดปกติของมดลูก และสาเหตุอื่นๆ ที่จะทำให้ทารกขาดความสมบูรณ์ จะพบได้ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์

3.เกิดจากการติดเชื้อที่ช่องคลอด

คุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง จึงทำให้มีฮอร์โมนเพศหญิงสูงมากขึ้นได้ โดยเฉพาะช่องคลอดของคุณแม่ก็จะมีเมือกจากตกขาวมากกว่าปกติ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดเกิดการอับชื้น มีการอักเสบและติดเชื้อได้

4.เกิดจากรกเกาะต่ำ

อาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์อีกสาเหตุหนึ่งคือปัญหารกเกาะต่ำ มักจะเกิดขึ้นในช่วงใกล้คลอด สำหรับแม่ที่มีภาวะรกเกาะต่ำ คือรกของทารกมาเกาะอยู่บริเวณส่วนล่างของมดลูก ใกล้กับปากมดลูกหรือในคุณแม่บางรายรกจะปิดปากมดลูกไว้บางส่วน หรือปิดจนมิดและขวางทางคลอดของทารกได้ อาการคุณแม่ที่มีรกเกาะต่ำนี้ จะมีเลือดออกโดยไม่มีอาการเจ็บครรภ์ เลือดจะไหลทีละน้อยไปจนถึงไหลออกมามากขึ้น คุณแม่ท้องควรได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์ เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมในการทำคลอดลูกก่อนกำหนด

5.เกิดจากท้องลม

คุณแม่ที่มีภาวะการเกิดภาวะท้องลม ส่วนใหญ่เป็นเพราะตัวอ่อนมีความผิดปกติ จะพบได้ในช่วง 3 เดือนแรก โดยจะมีอาการเหมือนคนตั้งครรภ์ทั่วไป มีแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และคัดเต้านม หากตัวอ่อนนั้นมีความผิดปกติเกิดขึ้นโดยเฉพาะด้านโครโมโซม ตัวอ่อนจะหยุดการเจริญเติบโต และฝ่อไปจนนำไปสู่การแท้งเองตามธรรมชาติ จึงทำให้เลือดออกที่ช่องคลอด

6.เกิดจากท้องนอกมดลูก

อาการท้องนอกมดลูกคือ ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายระหว่างตั้งครรภ์ เป็นความผิดปกติของการตั้งครรภ์ เกิดจากตัวอ่อนไม่ฝังตัวอยู่ในโพรงมดลูก แต่กลับไปฝังตัวอยู่นอกโพรงมดลูก โดยอาจจะเป็นปีกมดลูก ท่อนำไข่ หรือรังไข่ เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตขึ้น อวัยวะที่ตัวอ่อนฝังตัว ไม่สามารถรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนได้ จะทำให้มีอาการปวดท้องน้อยมาก โดยปวดเป็นระยะๆ พร้อมทั้งมีเลือดออกในช่องท้องมาก และอาจเสียทำให้คุณแม่ชีวิตได้ หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

เลือดออกตอนท้อง อันตรายมากแค่ไหน

ในช่วงระยะ 3 เดือนแรก ของการตั้งครรภ์ คุณแม่ที่มีเลือดออกขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ  จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการแท้งได้ ซึ่งคุณแม่ที่อาจเกิดอาการแท้ง จะมีอายุครรภ์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 12 ของการตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้การมีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ ก็ไม่ใช่เป็นตัวบ่งชี้ถึงการแท้งเสมอไป เพราะมีคุณแม่ตั้งครรภ์อีกจำนวนหนึ่งที่มีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ แต่ไม่ได้มาจากการแท้ง แต่อย่างใด โดยเฉพาะการมีอาการเลือดออกช่วง 6-12 วันหลังการปฏิสนธิ เพราะนั่นคือเลือดที่เรียกว่าเลือดน้ำล้างหน้าเด็ก ที่เกิดจากการที่ตัวอ่อนไปฝังตัวอยู่ที่ผนังมดลูก จนทำให้มีการทำลายเนื้อเยื่อและเส้นเลือดฝอยให้ฉีกขาด จึงทำให้มีเลือดไหลออกมาได้ ซึ่งการมีเลือดล้างหน้าเด็กนั้นจะมีเพียง 1-2 วัน อาการก็จะหายไปได้เอง

แต่ถ้าคุณแม่มีเลือดออกทางช่องคลอด โดยเลือดที่ออกมาช่วงแรกจะเป็นหยด จากนั้นจะมีเลือดออกมามากขึ้นเรื่อยๆ โดยอาจออกมาเป็นลิ่มเลือดก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีอาการปวดท้องเนื่องจากเป็นตะคริวในมดลูก ซึ่งอาการจะคล้ายกับตอนปวดประจำเดือนนั่นเอง

Sponsored

สำหรับคุณแม่ที่สามารถจับความรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และทำให้รู้สึกวิตกกังวล โดยบางคนอาจรู้สึกถึงอาการต่างๆ ที่หายไป เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงอาการคัดตึงหน้าอก ก็จะหายไปด้วยเช่นกัน

การดูแลตนเอง เมื่อมีเลือดออก

เมื่อคุณแม่มีอาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์ ควรดูแลตนเองด้วยวิธีการดังนี้

1.แนะนำให้ใช้แผ่นอนามัยรองรับเลือด โดยคุณแม่จะต้องนับว่าแต่ละวันใช้ไปกี่ชิ้น และต้องเปลี่ยนบ่อยกี่ครั้งในหนึ่งวัน จากนั้นให้บันทึกไว้ เพื่อปรึกษาแพทย์ ห้ามใช้ผ้าอนามัยแบบสอด

2.หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ช่วงที่มีเลือดออก

3.เมื่อมีอาการเลือดออกควรสอบถามจากแพทย์ คุณแม่ที่มีเลือดออกขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ ไม่ควรคิดเองว่าเลือดที่ออกมานั้นเกิดจากการแท้งบุตร เพราะมีคุณแม่อีกหลายรายที่มีเลือดออกระหว่างการตั้งครรภ์ แต่สามารถตั้งครรภ์ไปอย่างราบรื่น และคลอดลูกน้อยออกมาด้วยสุขภาพแข็งแรงได้

อาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์ มีทั้งชนิดที่อันตรายเสี่ยงต่อการแท้งลูก และอาการที่ปกติไม่เป็นอันตราย คุณแม่ควรสังเกตุอาการว่าเป็นแบบไหน หากพบว่าเป็นขั้นรุนแรงก็ควรไปพบแพทย์ทันที แต่หากเป็นอาการที่ไม่รุนแรงก็จะได้ดูแลสุขภาพในการเป็นคุณแม่ต่อไปได้

= = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ตรวจก่อนรู้ก่อน ลูกรอด แม่ปลอดภัย จากภาวะครรภ์เป็นพิษ

2.ครรภ์เป็นพิษ ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก