หัวปลี ซึ่งเป็นส่วนของดอกกล้วย แต่มีคุณประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด เพราะในหัวปลีมีสารอาหารที่สำคัญหลายอย่าง ทั้งธาตุเหล็ก แคลเซียม โปรตีน และวิตามินต่างๆ ซึ่งเหมาะที่จะกินเพื่อบำรุงสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอด เมื่อกินแล้วจะช่วยส่งเสริมให้ผลิตน้ำนมได้มากขึ้น น้ำนมไหลดี และเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อย โดยคุณแม่ที่มีปัญหาน้ำนมน้อยหากได้กินน้ำหัวปลีจะช่วยได้มากเลยทีเดียว
น้ำหัวปลี ดีอย่างไร
ประโยชน์ของน้ำปลีกล้วย มีดีตรงไหน ทำไมคุณแม่หลังคลอดจึงให้ความสนใจสั่งมากินกันเป็นจำนวนมาก เรามาดูสรรพคุณของน้ำปลีกล้วยกันเลย
1.ช่วยบำรุงเลือด
ในน้ำปลีกล้วยซึ่งสกัดมาจากหัวปลี มีธาตุเหล็กอยู่สูงมาก จึงช่วยบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอดที่ผ่านการเสียเลือดจากการคลอดบุตร เมื่อกินน้ำปลีกล้วยจะช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้นได้
2.ช่วยเพิ่มน้ำนม
ด้วยสรรพคุณหัวปลีที่ช่วยบำรุงเลือดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อนำมาทำเป็นน้ำปลีกล้วยจึงทำให้มีประโยขน์ในการช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมให้ผลิตมากขึ้น ช่วยให้น้ำนมไหลสะดวก ประกอบกับการดูดกระตุ้นของลูกน้อยอย่างถูกวิธี ก็จะส่งเสริมให้น้ำนมแม่ผลิตมากขึ้น ทุกครั้งที่ลูกน้อยดูดนมออกไปมากเท่าไหร่ ต่อมน้ำนมก็จะผลิตออกมาแทนที่มากเท่านั้น
3.ลดระดับน้ำตาลในเลือด
จากการศึกษาวิจัยฤทธิ์พบว่า หัวปลีช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี จึงทำให้คุณแม่หลังคลอดกินน้ำหัวปลีได้อย่างปลอดภัย และดีต่อผู้ที่มีปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงอีกด้วย
4.มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ในน้ำปลีกล้วยมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟีโนลิก เช่น แอนโทไซยานิน และเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีสารทานอลอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย และยังช่วยป้องกันการอักเสบในร่างกายได้อีกด้วย
5.ช่วยต้านอาการซึมเศร้า
ในหัวปลีมีธาตุอาหารประเภทแมกนีเซียมอยู่สูง ซึ่งเป็นธาตุอาหารสำคัญที่ใช้ในการรักษาผู้ที่มีอาการซึมเศร้า โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอด ที่อาจมีความเสี่ยงจากการเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่าย เนื่องจากภาวะฮอร์โมนที่ยังปรับตัวไม่ดีพอ ดังนั้นคุณแม่หลังคลอดที่กินน้ำหัวปลีเพื่อประโยชน์ในการเพิ่มน้ำนมแล้ว ยังได้ประโยชน์ในการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้อีกด้วย
6. รักษาโรคกระเพาะ
สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหากระเพาะอาหารไม่ค่อยดี หรือมีอาการกรดไหลย้อน สามารถแก้ปัญหาด้วยการกินน้ำปลีกล้วย ซึ่งมีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหารได้ โดยกินตอนท้องว่าง หรือหากจะให้ได้รสชาติหัวปลีที่เข้มข้น ก็สามารถซื้อหัวปลีสดมาหนึ่งหัว แล้วนำไปเผาไฟให้สลด จากนั้นนำมาคั้นเอาเฉพาะน้ำปลีกล้วยแล้วดื่ม จะช่วยรักษาอาการของโรคกระเพาะอาหารได้
วิธีการเลือกน้ำหัวปลีที่ดีที่สุด
เรามาดูกันว่าจะเลือกน้ำปลีกล้วยอย่างไรดี ให้ได้ประโยชน์และดีต่อคุณแม่ให้นมบุตรมากที่สุด
1.ต้องผลิตได้มาตรฐานและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพราะเป็นการกินเพื่อกระตุ้นในการผลิตน้ำนม ซึ่งส่งผลต่อลูกน้อยโดยตรง คุณแม่จำเป็นต้องเลือกสรรน้ำปลีกล้วยจากแหล่งผลิตที่นำวัตถุดิบมาจากธรรมชาติ เชื่อถือได้ว่าไม่ปนเปื้อนสารเคมี
2.สะดวกตรงตามความต้องการของคุณแม่ โดยควรเลือกขนาดและปริมาณตามที่คุณแม่ต้องการ
3.รสชาติที่ชอบ รสชาติต้องถูกใจ จะได้ไม่เหมือนการกินยา หรือถูกบังคับให้กิน ซึ่งจะทำให้ไม่มีความสุขในการกิน
5 ยี่ห้อน้ำหัวปลีที่แนะนำ
น้ำหัวปลีที่จำหน่ายในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อ แต่ที่คุณแม่นิยมมากที่สุดมี 5 ยี่ห้อมาแนะนำดังนี้
1.Milk Plus & More
เป็นน้ำปลีกล้วยที่ดื่มง่าย รสชาติถูกใจคุณแม่เพราะมีให้เลือกหลายรส ทั้งแบบดั้งเดิม คือน้ำปลีกล้วยมะขาม น้ำปลีกล้วยผสมขิง และน้ำปลีกล้วยพุทรา ทั้งหมดนี้ใช้ความหวานด้วยธรรมชาติจากอินทผลัม ซึ่งมีประโยชน์ในการกระตุ้นน้ำนมแม่ทั้งสิ้น

2.Plee Dee
น้ำหัวปลีสกัดเข้มข้น ที่ผสมอินทผลัม ทำให้ดื่มง่าย รสชาติดี เหมือนดื่มน้ำผลไม้ทั่วไป และที่สำคัญรสหวานธรรมชาติ ไม่ใส่สารสังเคราะห์ และวัตถุกันเสีย สามารถดื่มได้ทุกวัน

3.Mommy Booster
เป็นน้ำปลีกล้วยออร์แกนิค มีให้เลือกหลายรสชาติ ทั้งแบบผสมน้ำผึ้งตะไคร้ ผสมแครนเบอรี่ ผสมพรุนและขิง และผสมมะกรูดอินทผลัม ซึ่ง Moomy Booster ทุกรสชาติไม่มีน้ำตาลและสารกันบูด คุณแม่สามารถดื่มเพื่อบำรุงน้ำนมได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ

4.Mommylicious
มัมมี้ลิเชียสจูซ มี 2 รสชาติ คือน้ำหัวปลีรสธรรมชาติ และแบบผสมโป๊ยกั้ก ช่วยในการบำรุงโลหิต เพิ่มน้ำนมได้

5.หัวปลีแบรนด์คัดเต้า
แบรนด์นี้มีให้คุณแม่เลือกดื่มได้หลากหลาย เช่น แบบผสมโกโก้ ผสมเสาวรส ผสมอินทผลัม ผสมมะขามอัญชัน และผสมกะเพรา คุณแม่ที่เบื่อความจำเจของน้ำปลีกล้วยอื่นๆ สามารถเปลี่ยนมาดื่มแบบนี้ได้

ยุคนี้คุณแม่ที่เตรียมตัวเป็นคุณแม่ส่วนใหญ่ จะมีการศึกษาข้อมูลในการตั้งครรภ์ และการรับมือหลังคลอดกันดีอยู่แล้ว การจัดการเรื่องน้ำนมมีไม่พอหรือมีน้อย หากเตรียมตัวดื่มน้ำหัวปลีล่วงหน้าก่อนคลอด 1-2 เดือน และกินต่อเนื่องจนกระทั่งคลอดแล้ว ก็จะทำให้ปัญหาไม่มีน้ำนมหลังคลอดลดลงได้ ทั้งนี้คุณแม่ก็ควรกินอาหารในหมวดอื่นๆ อย่างเพียงพอด้วยเช่นกัน
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่