ลูกตาแฉะ และมีขี้ตามาก เป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจ ให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไรกันแน่ และอาการแบบนี้จะเป็นอันตรายหรือไม่ ทางคนท้อง.com จึงรวบรวมข้อมูล ที่คุณแม่ควรรู้ เกี่ยวกับปัญหาลูกตาแฉะมาฝากกันด้วย ซึ่งมีสาเหตุมาจากอะไร และเป็นอันตรายไหมก็ต้องไปทำความเข้าใจกันเลย
สาเหตุที่ทำให้ ลูกตาแฉะ
สาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยมีอาการตาแฉะ ส่วนมากจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ที่ทำให้เกิดอาการบวมแดงบริเวณหนังตาและเยื่อตา รวมถึงมีขี้ตามากอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งโรคนี้ก็ถือเป็นโรคอันตราย ที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่ทำการรักษา ก็อาจถึงขั้นทำให้ลูกน้อยตาบอดได้เลยทีเดียว
อาการตาแฉะในเด็ก เป็นแบบไหน
อาการแบบไหนที่เรียกว่าลูกมีอาการตาแฉะ และอาจเป็นอันตรายได้ สามารถสังเกตได้ดังนี้
- มีอาการตาแฉะ น้ำตาไหลออกมาคลอเบ้าตาอยู่ตลอดเวลา
- มีขี้ตาเยอะมาก โดยอาจเป็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ ซึ่งมักจะเป็นสีเหลือง
- เยื่อบุตาอาจเป็นดูแดงๆ เนื่องจากเกิดการอักเสบของเยื่อบุตานั่นเอง
- ในบางรายที่มีอาการรุนแรงหรือมีขี้ตาเยอะมาก อาจถึงขั้นเป็นหนองที่หัวตาได้เลยทีเดียว
วิธีการดูแลรักษา
การรักษาเมื่อพบว่าลูกมีอาการตาแฉะ ในเบื้องต้นคุณแม่สามารถดูแลรักษาด้วยตัวเองได้ ด้วยการใช้สำลีชุบน้ำต้มสุกที่เริ่มเย็นแล้ว มาเช็ดเบาๆ บริเวณตาของลูกเพื่อขจัดขี้ตาให้หมดไป ส่วนความเข้าใจที่ว่า การใช้น้ำนมของแม่หยอดตาลูกจะช่วยรักษาอาการตาแฉะได้นั้น เป็นความเข้าใจที่ผิดและไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้หายแล้ว ยังเพิ่มโอกาสการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้หากพบว่าลูกน้อยมีอาการรุนแรงขึ้น แม้จะเช็ดตาเป็นประจำก็ไม่ทุเลาลง แนะนำให้พาลูกน้อยไปพบแพทย์ในทันที เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัย และสั่งจ่ายยารักษาที่เหมาะสมมาให้นั่นเอง ทั้งนี้อาการตาแฉะของลูก อาจไม่ได้เป็นเพราะการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเสมอไป โดยอาจเกิดจากกระจกตาอักเสบ มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา หรือสาเหตุอื่นได้เหมือนกัน
ป้องกันอย่างไร ไม่ให้ลูกตาแฉะ
อาการตาแฉะในเด็ก สามารถป้องกันได้ ด้วยการดูแลดวงตาของลูกน้อยอยู่เสมอ ตั้งแต่แรกคลอด ด้วยการเช็ดทำความสะอาดดวงตาของลูกเป็นประจำ โดยต้องมั่นใจด้วยว่าอุปกรณ์ที่ใช้มีความสะอาดมากพอ และอย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนเช็ดตาลูกเด็ดขาด เพราะเชื้อโรคที่ติดมากับมือเรา อาจเป็นสาเหตุทำให้ลูกติดเชื้อที่ดวงตาได้นั่นเอง ซึ่งควรเช็ดดวงตาของลูกน้อยวันละ 2-3 ครั้งจะดีที่สุด
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..