ป้อนยาลูก กับ 7 เทคนิคน่ารู้  … ปัญหาของการเลี้ยงลูกที่สำคัญของพ่อแม่มือใหม่อีกอย่างหนึ่ง ก็คือเรื่องของการป้อนยา ที่เป็นเรื่องยากเย็นเสียเหลือเกิน ยิ่งถ้าลูกน้อยมีอาการป่วยงอมจนคุณหมอต้องสั่งยาให้มากกว่า 2 ชนิดขึ้นไป แทบจะต้องกราบไหว้กันเลยทีเดียวเพื่อให้ลูกกินยาได้ บางครั้งดูเหมือนสถานการณ์จะเป็นไปได้ด้วยดี ยอมให้ป้อนยาได้ง่าย ๆ แต่เมื่อป้อนเข้าไปแล้ว ก็กลับพ่นยาออกมา หรืออาเจียนออกมาเลย ซึ่งก็สร้างความปวดหัว และความเครียดให้กับพ่อแม่พอสมควร ดังนั้นเราจึงรวบรวม 7 เทคนิคดี ๆ ในการป้อนยาลูกมาฝากกัน โดยรับรองเลยว่าจะทำให้การป้อนยาลูกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

7 เทคนิคป้อนยาลูก เมื่อลูกไม่ยอมกินยา

หากลูกไม่ยอมกินยา จะทำอย่างไรดี แนะนำ 7 วิธีป้อนยาลูกดังนี้

1.พูดคุยกันตรง ๆ เกี่ยวกับการทานยา

การเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะด้วยเรื่องไหนก็ตาม คือการพูดคุยกันตรง ๆ ด้วยเหตุผล เพื่อให้ลูกได้มีโอกาสทำความเข้าใจกับเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งพ่อแม่องห้ามใส่อารมณ์หรือความไม่พอใจลงไปเด็ดขาด ค่อย ๆ อธิบายว่า อาการป่วยที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ จะทำให้ตัวเขาเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง และถ้าอยากให้หายไว ๆ ก็ควรจะทานยา ถึงแม้จะมีรสชาติไม่ถูกปากก็ตาม หากลูกมีข้อสงสัยก็ปล่อยให้เขาซักถามจนเกิดความพอใจ ก็จะทำให้เขาเกิดทัศนคติที่ดีในการกินยา ซึ่งจะติดตัวไปจนโต

2.ลองผสมลงในเครื่องดื่ม และอาหารที่มีรสชาติหวาน

แต่ก่อนที่จะมีการผสมนั้น ควรจะถามแพทย์ที่จ่ายยาก่อนว่า ยานี้มีรสชาติอย่างไรบ้าง และถ้าหากเอาไปผสมน้ำ หรือผสมลงไปในอาหาร จะทำให้คุณภาพของยาเสื่อมลงหรือไม่ หรือส่งผลกระทบใด ๆ ต่อลูกน้อยหรือเปล่า ซึ่งถ้าหากว่าแพทย์อนุญาตให้ทำได้ ก็ค่อย ๆ แอบผสมลงไปในน้ำหวาน หรือเครื่องดื่มที่เขาชอบ ควรผสมยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง อย่าลดจำนวนลงเพราะความสงสาร ซึ่งนั่นเป็นการเลี้ยงลูกที่ไม่ถูกต้อง

3.หารางวัลเพื่อเป็นสิ่งกระตุ้น

เพราะการเลี้ยงลูกนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องของความรักความผูกพันของครอบครัว ยิ่งครอบครัวไหนที่มีการกอด การหอมลูกอยู่เสมอ จะสังเกตได้ว่าเด็กจะมีความสุข และมีทัศนคติที่ดี เรื่องนี้สามารถนำมาใช้กับการป้อนยาได้ ไม่ว่าลูกจะกินยาได้โดยง่าย หรือจะออกฤทธิ์เดชก่อนกินยา แต่เมื่อป้อนยาได้ครบตามที่แพทย์สั่งแล้ว ก็ควรให้รางวัลเขาทันทีด้วยการกอด หอมแก้ม หรืออาจจะเป็นขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ จะช่วยให้เด็กกินยาง่ายขึ้นในครั้งต่อไป

4.ใช้ไซริงจ์เป็นตัวช่วย

แต่ถ้าหากการเลี้ยงลูกในขณะนั้น เกิดขึ้นในช่วงที่เขายังเป็นทารกที่พูดไม่ได้ หรือยังโตไม่พอที่จะสื่อสารได้ ก็อาจจะใช้การป้อนยาทางไซริงจ์เพื่อไม่ให้รสชาติของยาสัมผัสกับลิ้นของลูกโดยตรง ซึ่งอาจจะทำให้เด็กแหวะหรือพ่นออกมา โดยค่อย ๆ ฉีดไซริงจ์เข้าไปทางกระพุ้งแก้มให้เด็กค่อย ๆ กลืนลงไป อย่าฉีดลงลำคอโดยตรง เพราะอาจทำให้เด็กเกิดการสำลักได้

5.ทานไอศกรีมก่อนทานยา

อาจจะเป็นเรื่องที่แปลกพอสมควรในการเลี้ยงลูก เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่มีลูกไม่สบาย ก็ย่อมไม่อยากให้ลูกได้กินของเย็น ๆ ที่จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น แต่สำหรับกรณีนี้เป็นข้อยกเว้น เพราะเมื่อเด็กทานไอศกรีมเข้าไป จะทำให้ลิ้นชาจากความเย็น และมีรสหวานติดลิ้นอยู่ จะทำให้ไม่รู้สึกถึงความขมของยาเท่าที่ควร จึงทำให้สามารถกินยาได้ง่ายขึ้น

Sponsored

6.ลองให้ลูกได้กินยาเอง

เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องดี ๆ ในการเลี้ยงลูก ที่ให้เด็กได้ลองทำอะไรด้วยตัวเอง การกินยาก็เช่นกัน อาจจะมียาบางชนิดที่ขมบ้าง หวานบ้าง มีสีสันที่แปลกตาบ้าง ก็ค่อย ๆ อธิบายให้ลูกได้ฟังว่า ยาตัวนี้กินเพื่ออะไร เมื่อหายแล้วจะสามารถไปทำอะไรได้บ้าง เช่น ยาสีนี้ลดน้ำมูก ถ้าหายแล้วจะกินน้ำแข็งใส หรือไปเล่นน้ำที่ทะเลได้ พร้อมกันนั้นก็ลองวางอุปกรณ์ในการป้อนยา อย่างเช่นช้อนยา หลอดไซริงจ์ หรืออื่น ๆ ให้เขาเลือกดูว่า จะกินด้วยตัวเอง หรือจะให้ใครป้อนดี

7.เตรียมเครื่องดื่มไว้ให้ล้างคอ

ปิดท้ายกันด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือการเตรียมน้ำ หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น น้ำแดงเฮลบลูบอย หรือน้ำที่ลูกชอบไว้ให้ดื่มทันทีหลังป้อนยาเสร็จ เพื่อให้ลูกไม่ต้องพะอืดพะอมกับรสชาติของยาเป็นเวลานาน เมื่อเด็กได้ทานน้ำทันทีและไม่รู้สึกขมคอมากนัก ก็จะทำให้ครั้งต่อ ๆ ไปสามารถทานยาได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย

เพียงเท่านี้การป้อนยาลูกก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังมีปัญหาป้อนยาลูกยาก ก็ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันดู รับรองว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน

ขอขอบคุณที่มา : SuthiRaXeuxPhirocnKic  ,  islammore

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ในเด็ก ร้ายแรงมากแค่ไหน

2.8 วิธีการดูแลลูกน้อย เมื่อมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด