ถ้าหากจะพูดถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน ราคาไม่แพง และเหมาะสมกับการนำมาให้เด็กรับประทาน หลาย ๆ คนต้องคิดถึง “ไข่” อย่างแน่นอน เพราะสามารถหาได้ง่าย มีราคาไม่ถึงหลับสิบบาท และยังนำมาประกอบเมนูอาหารได้อย่างหลากหลายอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า ในปัจจุบันนี้ เกิดปัญหาอาการแพ้ไข่ในเด็กเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาการก็จะรุนแรงแตกต่างกันไป เราจึงขอนำเสนอเรื่องของอาการแพ้ไข่ในเด็กให้ผู้ปกครองที่กำลังสงสัยว่าลูกกำลังจะมีอาการเหล่านี้หรือเปล่าได้ลองนำพิจารณากันดู เพื่อจะได้หาวิธีการรักษาและป้องกันให้ถูกวิธีต่อไป
อาการแพ้ไข่ในเด็กคืออะไร
เชื่อว่าหลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า หากมีอาการแพ้อาหารแล้วเผลอทานอาหารที่แพ้เข้าไปนั้น ก็จะมีการแสดงอาการตามมา ซึ่งเกิดจากการที่ผู้แพ้อาหาร มีเอนไซม์บางชนิดที่ไม่สามารถย่อยอาหารชนิดนั้นได้ จึงทำให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึง “ไข่” นั่นเอง ถึงแม้ว่าจากการสำรวจจะพบอาการแพ้ไข่ในเด็กที่เกิดจากไข่แดงมากกว่าไข่ขาว แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการทานไข่ทั้งใบอยู่ดี บางคนอาจมีอาการไม่หนักมาก เช่น ไอ เจ็บคอ มีอาการคันและบวมตามใบหน้า แขน ขา ไปจนถึงอาการรุนแรงอย่างเช่นการหายใจไม่ออก อาเจียน ความดันโลหิตลงลง หมดสติไปจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
เพราะอะไร อาการแพ้ไข่ในเด็กจึงเป็นเรื่องที่น่ากลัว
เหตุที่อาการแพ้ไข่ในเด็กมีความน่ากลัว ก็เพราะว่าไข่เป็นส่วนประกอบของอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะผัด ต้ม แกง หรือแม้กระทั่งการทานหมูกระทะ ก็อาจมีส่วนผสมของไข่ในการประกอบอาหารด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเพิกเฉยไม่ได้โดยเด็ดขาด เมื่อรู้ว่าลูกของคุณมีอาการแพ้ไข่ หากจะทานอาหารนอกบ้าน ก็ต้องกำชับกับทางร้านเป็นอย่างดีว่า ห้ามใส่ไข่ลงไปในอาหารโดยเด็ดขาด หรือถ้าหากจะซื้อของกินกลับมาทานที่บ้าน ก็ควรสอบถามกับผู้ผลิตหรืออ่านฉลากให้เรียบร้อยว่ามีส่วนประกอบของไข่อยู่หรือไม่ เพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ไข่ในเด็กที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้หากลูกอยู่ในวัยที่ต้องเริ่มเข้าโรงเรียนแล้วก็อย่าลืมแจ้งครูประจำชั้นหรือเขียนป้ายติดกระเป๋าไว้ว่าลูกมีอาการแพ้ไข่ เพราะถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินจากการเผลอทานอาหารที่มีส่วนผสมของไข่เข้าไป จะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
หากพบอาการแพ้ไข่ในเด็ก ควรให้ลูกทานอะไรทดแทน
อย่างที่รู้กันดีว่า ไข่เป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน และวิตามินต่าง ๆ มากมาย เมื่อลูกไม่สามารถทานไข่ได้ ก็จำเป็นที่จะต้องมีการให้โปรตีนทดแทนในทางอื่น เช่น นมสด ถั่วต่าง ๆ ธัญพืช และเนื้อสัตว์อย่างเหมาะสม เพราะถ้าร่างกายขาดโปรตีน ก็จะมีผลให้เด็กไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามวัย มีผิวพรรณ เล็บ ผม ที่ไม่สดใสแข็งแรงอย่างที่ควรจะเป็น และถ้าหากขาดโปรตีนมาก ๆ ก็อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบความจำและระบบประสาท มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่าย ซึ่งถ้าหากพบปัญหาในส่วนนี้แล้วไม่มั่นใจว่าจะให้ลูกทานอาหารอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นการขาดสารอาหาร ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำอย่างถูกต้อง
จะรู้ได้อย่างไร ว่าลูกมีอาการแพ้ไข่
เนื่องจากบางครั้ง อาหารที่ลูกทานนั้น ก็มีส่วนผสมของวัตถุดิบหลาย ๆ ชนิด จึงอาจทำให้พ่อแม่เกิดความไม่มั่นใจได้ว่า ลูกแพ้อะไรกันแน่ ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งแพทย์ก็อาจจะทำการซักประวัติของเด็กร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อหาข้อมูลทางพันธุกรรมว่ามีโรคติดต่ออะไรหรือไม่ หรือเคยมีประวัติแพ้อะไรมาก่อนหรือเปล่า จากนั้นแพทย์ก็จะทำการทดสอบทางผิวหนัง (Skin Test) เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตอบได้ว่า ลูกมีอาการแพ้อะไร ดีกว่าคิดไปเอง และป้องกันอย่างไม่ถูกวิธี
อาการแพ้ไข่ในเด็ก มีวิธีการรักษาและป้องกันหรือไม่ ?
วิธีการรักษาอาการแพ้ทุกชนิดที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นการแพ้อาหาร เช่น การแพ้กุ้ง แพ้ไข่ แพ้อาหารทะเล หรือการแพ้ฝุ่นต่าง ๆ ก็คือการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นนั้นทุกทาง เนื่องจากยังไม่มีการรักษาอาการแพ้ใด ๆที่ยืนยันผลได้ 100% ว่าจะหายขาดจากอาการแพ้นั้น อย่าคิดท้อแท้ใจไปว่าเป็นโรคเวรโรคกรรมจนทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะอาการแพ้ไข่นี้ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากพันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณแม่ รวมทั้งอาหารการกินในขณะที่มีการตั้งครรภ์ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ไข่ในเด็กได้
อาการแพ้ไข่ในเด็ก เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายกับเด็กทุกคน ดังนั้นคุณแม่จึงควรระมัดระวังและสังเกตอาการผิดปกติเมื่อลูกกินไข่ให้ดี เพื่อจะได้ทราบว่าลูกแพ้ไข่หรือไม่ และหากลูกแพ้ไข่ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไข่ทุกชนิดพร้อมกับเสริมอาหารชนิดอื่นที่ให้สารอาหารใกล้เคียงกับไข่มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกขาดสารอาหารที่จำเป็นไปนั่นเอง
ขอขอบคุณที่มา : honestdocs , pantip
ขอบคุณรูปภาพ : health
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..