ลูกท้องเสีย เป็นอาการที่พบบ่อยมากในเด็กเล็ก หากพ่อแม่รักษาไม่ถูกต้องหรือไม่รีบรักษาปล่อยให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรัง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกได้ เรามาเรียนรู้วิธีดูแลเมื่อลูกท้องเสียกันว่า ควรดูแลอย่างไรและเมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์ เพื่อที่พ่อแม่จะได้รับมือทัน

วิธีการดูแลเมื่อ ลูกท้องเสีย

เมื่อลูกมีอาการท้องเสีย จะมีวิธีการดูแลที่พ่อแม่ต้องรู้และทำตามดังต่อไปนี้

  1. ให้พ่อแม่สังเกตุดูว่าอาการถ่ายของลูกนั้นรุนแรงหรือไม่ เพราะบางครั้งเด็กอาจจะถ่ายแค่ 1-2 ครั้งแล้วก็หยุดเพราะร่างกายต้องการขับสารออกมาให้หมดซึ่งอาจไม่ได้หมายความว่าท้องเสียก็ได้ การสังเกตุจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่หากลูกถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน แบบนี้ก็ควรรีบพาไปพบแพทย์ด่วน
  2. หากพ่อแม่ยังไม่แน่ใจว่าลูกหายท้องเสียหรือยัง พ่อแม่ควรงดการดื่มนมขวดชั่วคราว เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้ แต่หากเด็กดื่มนมแม่ก็สามารถให้ดื่มต่อได้ปกติ ส่วนอาหารอื่นควรทานอาหารที่อ่อน เช่น ข้าวต้มบดเกลือ เป็นต้น
  3. สำหรับเด็กที่กินนมแม่ขณะท้องเสียอยู่ก็ยังสามารถกินได้ตามปกติ เพราะนมแม่เป็นนมชนิดเดียวที่สามารถให้ลูกกินได้ขณะท้องเสีย และยังเป็นเหมือนยาอย่างดี ที่จะช่วยรักษาอาการท้องเสียของลูกได้อีกด้วย
  4. เพื่อป้องกันการขาดน้ำขณะลูกท้องเสีย แม่สามารถให้กินสารละลายน้ำตาลเกลือแร่โอเอสอาร์แทนได้ ในปริมาณ 2-3 ออนต์ต่อการถ่ายเหลว 1 ครั้ง หรือจิบบ่อยๆ จนกว่าอาการจะดีขึ้น หากลูกไม่สามารถดื่มเกลือแร่ทดแทนได้แม่สามารถให้กินน้ำข้าวหรือน้ำต้มซุปใส่เกลือแทนได้เช่นกัน
  5. หากประเมินอาการลูกแล้วพบว่าลูกมีอาการดีขึ้นแม่สามารถให้ทานข้าวบดใส่เกลือได้ และเมื่ออาการดีขึ้นอีกระยะสามารถชงนมให้ดื่มได้แต่ให้ชงจางกว่าปกติ ไปเรื่อยๆจนสามารถชงตามปกติได้สารอาหารที่ลูกจะได้รับในช่วงท้องเสียควรได้รับตามขั้นตอนทีละน้อยๆ เพื่อปรับสมดุลในร่างกายลูกให้เป็นปกติ

อาการท้องเสียแบบไหน ที่ควรพบแพทย์ด่วน

เมื่อเด็กเกิดอาการท้องเสียแน่นอนร่างกายอาจขาดน้ำได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเมื่อเด็กมีอาการขาดน้ำจะทำให้เสี่ยงต่อการช็อคได้ โดยทั้งนี้สิ่งที่จะสังเกตได้ชัดหากลูกมีอาการขาดน้ำ คือ เยื่อบุช่องปากแห้ง มีอาการหิวน้ำบ่อย ปัสสาวะน้อย ร้องไห้ไม่มีน้ำตา กระบอกตาลึกโบ๋ กระหม่อมบุ๋ม ผิวหนังเย็น ชีพจรเต้นเร็ว ซึ่งหากพบอาการใดอาการหนึ่งดังนี้ คุณแม่ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้เป็นครบทุกอาการ นอกจากนี้หากลูกมีอาการดังต่อไปนี้ ก็ควรรีบพาไปหาหมอทันทีเช่นกัน

  • ท้องร่วงอย่างน้อย 3 วัน
  • มีอาการปวดท้องที่รุนแรง
  • มีไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส
  • ถ่ายออกเป็นเลือดหรืออุจาระออกมาเป็นสีดำเหมือนถ่าน
  • อาเจียนมากจนไม่สามารถดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทนได้

จะป้องกันลูกมีอาการท้องเสียได้อย่างไร

แม้ว่าอาการท้องเสียของลูกจะสามารถรักษาได้ แต่จะดีกว่าไหมหากป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้ลูกมีอาการท้องเสีย โดยมีวิธีป้องกันง่ายๆดังนี้

  1. กรณีที่ให้ลูกดื่มนมจากขวด คุณแม่ต้องมั่นใจว่าขวดนมมีความสะอาดมากพอ และนมจะต้องชงใหม่ ซึ่งหากชงทิ้งไว้นานแล้วต้องดูให้ดีก่อนว่านมเสียแล้วหรือยัง
  2. ทำความสะอาดของเล่น และสิ่งของที่ลูกอาจหยิบเข้าปากได้ เพราะเชื้อโรคอาจเกาะอยู่บนสิ่งของเหล่านั้นโดยไม่รู้ได้เหมือนกัน
  3. ให้ลูกดื่มนมแม่นานและมากที่สุด เนื่องจากนมแม่มีภูมิต้านทานสูง ที่จะช่วยปกป้องลูกน้อยจากการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้
  4. กรณีที่ให้ลูกดื่มนมแม่ คุณแม่จะต้องระวังการกินอาหารด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้ส่งผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูกน้อยจนทำให้ลูกท้องเสียได้นั่นเอง โดยเฉพาะพวกอาหารหมักดอง อาหารรสจัด ห้ามกินเด็ดขาด

พ่อแม่ควรสังเกตอาการของลูกน้อยบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อลูกท้องเสีย ซึ่งหากลูกมีอาการเหล่านี้หรืออาการผิดปกติใดก็ตาม ควรรีบพาไปพบแพทย์ในทันที เพื่อจะได้ทำการตรวจและรักษาได้ทันนั่นเอง ที่สำคัญควรดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด ตามคำแนะนำข้างต้นด้วย

Sponsored

= = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด ควรเลือกแบบสายผูก หรือแบบกระดุมดีกว่ากัน

2.เสื้อผ้าเด็ก อันตราย ไม่ควรให้ทารกใส่ชุดแบบนี้