เรื่องพัฒนาการของลูกน้อยนั้น เป็นเรื่องที่ชวนให้เกิดความกังวลต่อคุณแม่เป็นอย่างมาก ที่จะต้องคอยลุ้นว่าลูกเราจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อใด จะเริ่มชันคอตอนไหน หรือจะเริ่มคว่ำเมื่อใด ใครที่ลูกมีพัฒนาการเร็วหน่อยเพราะมีการเรียนรู้ที่ดี คุณแม่นั้นแทบจะกรี๊ดลั่นบ้าน ต้องรีบถ่ายรูปบันทึกไว้ แต่สำหรับคุณแม่บางคน เห็นลูกครบเกณฑ์ทั่วไปแล้วแต่ลูกยังไม่มีทีท่าว่าจะทำพฤติกรรมสมอายุ เช่น อายุครบ 1 ปีแล้ว แต่ลูกคลานช้า หรือไม่ยอมคลาน ทั้งที่อย่างอื่นไม่มีปัญหา ก็พาให้เครียดได้เหมือนกัน เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการที่ลูกคลานช้า และเทคนิคฝึกให้ลูกคลานมาแนะนำกัน ซึ่งก็มีข้อมูลดังนี้
ลูกคลานช้า? ทำความเข้าใจกับการคลานของลูกก่อน
ตามปกติแล้ว พัฒนาการของเด็กจะเริ่มตั้งแต่ศีรษะลงไปจนถึงแขนและขา จึงทำให้เรามักจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กแบบเป็นขั้นเป็นตอน เช่น เริ่มจากการชันคอก่อน แล้วค่อยเริ่มคว่ำด้วยตัวเอง เมื่อโตขึ้นมาหน่อยก็จะพลิกได้ (บางคนอาจจะพบว่ากลิ้งเลย) จากนั้นก็จะเริ่มทรงตัว ด้วยการกระดืบ แล้วก็เริ่มคลาน จากนั้นจึงเริ่มพัฒนาเป็นนั่งและยืนตามลำดับ พฤติกรรมในการเลี้ยงลูกมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าเด็กจะมีพัฒนาการช้าหรือเร็ว พ่อแม่บางคนคอยแต่จะอุ้มลูกตลอดเวลา หรือให้ลูกอยู่แต่บนฟูกนิ่ม ๆ เพราะเกรงว่าจะไม่สบายตัว ผลก็คือลูกคลานช้า หรือไม่ยอมคลาน ทั้งที่พฤติกรรมอื่น ๆ ก็เป็นปกติ ซึ่งถ้าหากเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลใจไป มีเด็กจำนวนมากที่ข้ามขั้นตอนในเรื่องของการคลานไปเลย เพราะอาจจะไม่ชอบ ไม่ถนัด หรือรู้สึกเจ็บเข่านั่นเอง
เทคนิคการฝึกให้ลูกคลานเร็วขึ้น เพื่อลดความกังวลเรื่องลูกคลานช้า
ถึงแม้ว่าจะมีผู้ปกครองหลาย ๆ คนที่ออกมายืนยันว่าลูกคลานช้า หรือไม่คลานเลย ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่เกิดจากปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เด็กไม่สามารถทำได้ ซึ่งบางคนอาจจะข้ามขั้นตอนเป็นการยืนเกาะสิ่งของไปเลย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคุณแม่บางคนที่ไม่สบายใจในเรื่องของลูกคลานช้า ที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น เราก็ขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ลูกคลานได้เร็วขึ้น เพื่อให้คุณไม่ต้องกังวลใจในเรื่องนี้อีกต่อไป
1.ลองหาอะไรที่มีลักษณะกลม ๆ หรือมีสีสัน เป็นสิ่งกระตุ้น
ปัญหาลูกคลานช้าแก้ได้ เพียงแค่ลองหาลูกอะไรกลม ๆ อย่างเช่นลูกเทนนิส ลูกปิงปอง หรือลูกบอลเล็ก ๆ ที่มีสีสันสะดุดตา มากลิ้งไว้ใกล้ ๆ เพื่อให้ลูกค่อย ๆ คลานตามสิ่งเหล่านั้นไป เมื่อเด็กเริ่มไม่สนใจ ก็ลองหาอย่างอื่นที่มีลักษณะคล้าย ๆ กันมากลิ้งไปเรื่อย ๆ ยิ่งถ้าเด็กจับแล้วกลิ้งหนีไปอีก ก็จะทำให้เด็กได้มีการพัฒนาด้านการคลานตลอดเวลา
2.ใช้วิธีใจแข็งถอยห่างออกจากลูก
เมื่อใดก็ตามที่ลูกร้องไห้งอแง ลองถอยห่างออกจากเขาดูสัก 4-5 ก้าว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เขาได้คืบคลานมาหาคุณด้วยตัวเอง แม้ว่าครั้งแรก ๆ คุณอาจจะรู้สึกใจอ่อนเพราะสงสารลูก แต่ถ้าฝืนใจแข็งสักนิดก็จะเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น และเมื่อเขามาหาคุณได้สำเร็จ ก็ให้กำลังใจด้วยการปลอบใจ กอดแน่น ๆ หรือหอมแก้ม เพื่อให้เขารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็จะคลานมาหาคุณได้เองโดยไม่ต้องถอยห่างกันอีกต่อไป
3.อย่าให้ลูกหัดคลานบนฟูก
การที่เด็กจะเริ่มต้นหัดคลานนั้น อาจจะมีการทรงตัวที่ยังไม่ค่อยดีเท่าไร ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการหัวทิ่มหรือหัวคะมำลงได้ ยิ่งถ้าหากปูฟูกนุ่ม ๆ ให้เด็กได้หัดคลาน เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเจ็บเข่า ก็จะยิ่งทำให้เขาไม่สามารถคลานได้ เนื่องจากคอยแต่จะหัวคะมำอยู่ตลอดเวลา ลองปล่อยเด็กทิ้งไว้บนพื้นกระเบื้อง หรือพื้นที่มีความแข็งสักหน่อย แล้วลองวางของเล่นต่าง ๆ หรือตุ๊กตาไว้รอบตัวจะช่วยกระตุ้นให้เด็กเริ่มหัดคลานได้ดียิ่งขึ้น
4.ไม่ควรอุ้มลูกบ่อยเกินไป
อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกคลานช้า ก็คือการอุ้มลูกบ่อย หรืออุ้มลูกตลอดเวลา จนเด็กแทบจะไม่ได้เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ลองปล่อยให้เขามีอิสระดู และอุ้มเขาต่อเมื่อเขามีความต้องการให้อุ้มเท่านั้น คุณจะสามารถเห็นพัฒนาการของเด็กที่ชัดเจนได้ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการคลานไปหยิบสิ่งของต่าง ๆ ตามความต้องการของตัวเขาเอง
เพราะฉะนั้นก็หมดกังวลเรื่องลูกคลานช้าไปได้เลย เพราะพัฒนาการของเด็กแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน นอกจากว่าลูกมีการคลานช้าร่วมกับพัฒนาการด้านอื่นๆ ที่ช้าด้วย แบบนี้พ่อแม่ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและกระตุ้นพัฒนาการของลูกโดยด่วน
ขอขอบคุณที่มา : ladyinter.com
ขอบคุณรูปภาพ : sheknows
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..