ลูกน้อยมีอาการ ไอ จาม เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นๆ หายๆ มานาน อาการนี้อาจจะไม่ใช่โรคหวัดธรรมดา อาจจะเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็กก็ได้ โรคภูมิแพ้ในเด็ก สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ และเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้เช่น ฝุ่น ควัน มลพิษทางอากาศ ปัจจัยเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มโอกาสเป็นภาวะภูมิแพ้ได้มากขึ้น ภูมิแพ้ในเด็ก เกิดจากอะไร สามารถป้องกันได้หรือไม่ ในบทความนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากคุณแม่ทุกคน

สาเหตุของภูมิแพ้ในเด็ก

สาเหตุที่ทำให้เด็กๆ ป่วยเป็น โรคภูมิแพ้ นั้นก็จะมาจาก 3 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้

1.ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม

โรคภูมิแพ้ในเด็ก ที่มาจากปัจจัยทางพันธุกรรม พ่อหรือแม่มักจะป่วยเป็นโรคภูมิแพ้มาก่อน และได้ส่งผ่านทางพันธุกรรมไปสู่ลูก โดยเด็กที่พ่อหรือแม่มีประวัติป่วยภูมิแพ้มักจะเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ได้สูงถึงร้อยละ 50%  และหากทั้งพ่อ และแม่ ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ทั้งสองคน ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึง 80% และมักจะป่วยเป็นภูมิแพ้ชนิดเดียวกัน

2.ปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายนอกที่ทำให้เด็กเสี่ยงเป็น โรคภูมิแพ้ในเด็ก ได้แก่ สภาพสิ่งแวดล้อมเช่นอากาศ มลพิษ ไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง ผงซักฟอก เครื่องสำอาง สารเคมี รวมถึงอาหารทะเล หรือ จำพวกอาหาร นม ไข่ เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กได้

3.ปัจจัยภายใน

ปัจจัยภายในมาจากตัวเด็กเอง แม้จะยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร การขาดสารอาหาร หรือขาดวิตามินบางชนิดก็อาจทำให้ร่างกายขาดภูมิคุ้มกัน มักจะป่วย และติดเชื้อได้ง่ายกว่าเด็กทั่วไปได้

โรคภูมิแพ้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

นอกจากนี้เรายังสามารถแบ่ง โรคภูมิแพ้ในเด็ก ออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันดังนี้

1.โรคภูมิแพ้ที่แสดงอาการทันที

โรคภูมิแพ้ที่แสดงอาการทันที ได้แก่โรคภูมิแพ้แบบปัจจุบันทันด่วนเช่น แพ้อาหารทะเล แพ้ครีมทาผิว แพ้สารเคมีบางชนิด โดยร่างกายจะมีผื่นแดงขึ้นตามตัว หรือเกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน หรือท้องเสียเป็นต้น

2.โรคภูมิแพ้แบบค่อยเป็นค่อยไป

โรคภูมิแพ้ในเด็ก แบบที่ค่อยเป็นค่อยไป เด็กอาจจะได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้าไปร่างกายอาจจะเป็นการที่ทานอะไรใหม่ๆ หรือ ได้รับสารเคมีบางชนิดเป็นประจำ และเมื่อสะสมไปนานๆ ร่างกายเด็กก็จะค่อยๆ ออกอาการแพ้ขึ้นมานั่นเอง

อาการของภูมิแพ้ในเด็กที่ปรากฏ

อาการที่ปรากฏเมื่อลูกน้อยเป็น โรคภูมิแพ้ คุณแม่สามารถสังเกตอาการที่ปรากฏได้ตามทางผิวหนัง ระบบหายใจ และระบบทางเดินอาหารได้ดังนี้

- ทางผิวหนัง  จะมีผื่นแดง ๆ เกิดขึ้นทั่วตัว บริเวณหน้าหรือข้อพับต่าง ๆ ผื่นจะมีลักษณะคล้ายลมพิษ

- ทางระบบทางเดินหายใจเช่น  หายใจเสียงดังครืด ๆ หรือมีเสียงหายใจดังหวีด หายใจติดขัดเนื่องจากมีน้ำมูก และเสมหะมาอุดตันทางเดินหายใจ

Sponsored

- ทางเดินอาหาร เช่น เมื่อทานอาหารชนิดนั้นเข้าไปเกิดอาการอาเจียน  ปวดท้อง ท้องเสีย  ท้องผูก แต่ส่วนใหญ่จะพบอาการท้องเสียมากกว่า หรือรุนแรงถึงขั้นถ่ายเป็นมูกเลือด

โรคภูมิแพ้ในเด็กรักษาอย่างไร

การรักษา โรคภูมิแพ้ในเด็ก แพทย์จะรักษาตามอาการของเด็ก ทั้งการรักษาด้วยยา รักษาด้วยการบำบัด และกำจัดสิ่งกระตุ้นทำให้เกิดอาการแพ้ดังนี้

  • กำจัดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้เช่น หากพบว่าลูกน้อยป่วยด้วยสิ่งกระตุ้นใดควรกำจัด และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นนั้นๆ เช่น ไรฝุ่น ควันบุหรี่ มลพิษทางรถยนต์ สารเคมีบางชนิด เป็นต้น
  • รักษา โดยการใช้ยาเช่น ยาแก้แพ้ชนิดต่างๆ ยาพ่นจมูก ยาทาผื่นที่เป็นภูมิแพ้ รวมถึงการใช้สารชีวโมเลกุลที่เป็นยากลุ่มใหม่ในการรักษา โรคภูมิแพ้ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
  • การรักษาด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) เป็นการรักษาเพื่อให้ร่างกายของเด็กได้สร้างภูมิคุ้มกันร่างกายขึ้นมาให้แข็งแรง สามารถต้านกับโรค และสิ่งกระตุ้นได้ โดยมีทั้งวิธีการฉีด การกิน และการอมใต้ลิ้น
  • ดูแลสุขภาพของลูกให้แข็งแรงเช่น โดยการให้ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ ก็จะช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ดีขึ้น

การป้องกันลูกน้อยจากอาการภูมิแพ้

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่อยากให้ลูกต้องเสี่ยงกับ โรคภูมิแพ้ในเด็ก สามารถป้องกันลูกน้อยจากอาการภูมิแพ้ได้ ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • หมั่นทำความสะอาดเครื่องนอน รวมถึงเครื่องปรับอากาศ เป็นประจำ
  • ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ที่มีขนเช่น สุนัข หรือแมว ไว้ในบ้าน
  • ไม่สะสมหนังสือ หรือของใช้ที่ไม่จำเป็นไว้ภายในห้องนอน เพราะจะยิ่งทำให้เกิดฝุ่น และไรฝุ่นมากขึ้น
  • ผู้ปกครองไม่ควรสูบบุหรี่ในบ้านหรือบริเวณที่มีเด็กๆ อยู่ เพราะควันบุหรี่จะยิ่งกระตุ้นทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น
  • หมั่นพาลูกออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
  • รักษาความสะอาดของครัวเรือน พร้อมทั้งกำจัดเศษอาหาร และขยะต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงสาบ

ควรดูแลอย่างไรเมื่อลูกมีอาการภูมิแพ้

สำหรับการดูแลลูกเมื่อมีอาการ โรคภูมิแพ้ คุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมกับอาการของโรค ให้ลูกทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด  พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการแพ้อย่างเช่น ฝุ่น ควัน ขนสัตว์เลี้ยง อาหารบางชนิดเช่น นม อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม พร้อมปรับสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม เพียงเท่านี้อาการโรคภูมิแพ้ของลูกก็จะค่อยๆ ดีขึ้น และมีโอกาสที่จะหายเป็นปกติได้

ปัจจุบันมีเด็กป่วยด้วยโรคภูมิแพ้มากขึ้น เนื่องจากปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งฝุ่น ควัน มลภาวะทางอากาศ แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวล เพราะมียารักษาที่ดีขึ้น สามารถรักษา โรคภูมิแพ้ในเด็ก ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากพบว่าลูกมีอาการของโรคภูมิแพ้อย่ารอช้า รีบพาลูกมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา จะได้รักษาอย่างทันท่วงที และมีโอกาสที่จะหายขาดมากขึ้น

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

youtube:KonThong Channel คนท้อง
IG :Team_konthong
Tiktok :Teamkonthonth

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.คำแนะนำดีๆ ที่หมอสูติอยากบอกแม่ ท้องไตรมาส 2

2.คำแนะนำดีๆ ที่หมอสูติอยากบอกกับแม่ ท้องไตรมาสแรก