ลูกน้อยกับอาการแพ้เหงื่อตัวเอง ถือว่าเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อบริเวณผิวหนังได้ก่อปฏิกิริยากับเหงื่อที่ถูกขับออกมา โดยอาการแพ้มักจะแสดงออกมาในรูปแบบผื่นคันหรืออาการบวมแดงบริเวณผิวหนังตามร่างกาย เป็นโรคที่เจอกับลูกน้อยหลายๆ บ้าน ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ แน่นอนว่าอาการผิดปกติเหล่านี้ย่อมสร้างความกังวลใจแก่คุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย ดังนั้นการดูแลและป้องกันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด ซึ่งคุณแม่จะต้องทำอย่างไรนั้นเรามีคำตอบ
ลูกแพ้เหงื่อตัวเอง เกิดจากอะไร
1. สาเหตุหลักๆ ของอาการแพ้เหงื่อในลูกน้อยเกิดจากโรคผิวหนังที่เจ้าตัวเล็กกำลังเผชิญอยู่ โดยที่ร่องรอยการเกิดโรคเหล่านั้นทำปฎิกิริยากับเหงื่อ จึงเกิดผื่นแดง หรืออาการบวมแดงขึ้นมาทันที
2.อีกสาเหตุที่สำคัญของอาหารแพ้เหงื่อในทารกคือการที่ลูกน้อยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อย่างฝุ่นละออง เชื้อโรค หรือแบคทีเรีย
3. เนื่องด้วยวัยของลูกน้อยที่มีผิวที่บอบบางมาก ความบอบบางเหล่านี้ง่ายต่อการแพ้ต่อปัจจัยต่างๆรอบๆตัวลูกน้อยเอง
4. สุดท้ายเกิดจากปฏิกิริยาการแพ้เหงื่อของร่างกาย เกิดจากการที่ร่างกายได้มีการต่อต้านเหงื่อของตัวเอง การแพ้ในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการแพ้ที่ผิดปกติ
อาการที่แสดง เมื่อลูกแพ้เหงื่อตัวเอง
สำหรับอาการที่แสดงออกมา เมื่อลูกมีอาการแพ้เหงื่อ จะมีอะไรบ้างนั้นก็ต้องมาดูกันเลย
มีผื่นเนื่องจากต่อมเหงื่อ
การมีผื่นลักษณะนี้เกิดจากการที่ต่อมเหงื่อของลูกน้อยยังมีการทำงานไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ต่อมเหงื่อเกิดการอุดตัน มีผดใส ผดแดง ผดขุ่นเกิดขึ้น โดยลักษณะของผดจะขึ้นอยู่กับความลึกของต่อมเหงื่อ ลูกน้อยบางคนอาจมีอาการตัวร้อนเนื่องจากร่างกายกำลังขับความร้อนออกมานั่นเอง คุณแม่ไม่ต้องตกใจหรือเป็นกังวลใจหากลูกน้อยยังทานอาหารได้ดีถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ผื่นคันเนื่องมากจากต่อมไขมัน
มักจะกิดขึ้นกับลูกน้อยหลังคลอด สาเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากรูเปิดของต่อมไขมันยังทำงานไม่สมบูรณ์ก่อให้เกิดการอุดตันและอักเสบได้ง่าย บริเวณที่พบบ่อยคือศีรษะ คิ้ว ใบหู ซอกคอ รักแร้ หน้าอก ขาหนีบ ซึ่งผื่นเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการคันแต่อย่างไร
วิธีการดูแลรักษา
การดูแลรักษา จะขอแนะนำเป็น 2 วิธีหลักๆ ดังนี้
วิธีการดูแลจากประสบการณ์คุณแม่
1. ช่วงเวลาที่อาบน้ำ ให้คุณแม่เน้นฟอกสบู่บริเวณที่เกิดผื่น เพื่อขจัดความเค็มของเหงื่อให้ออกไป จากนั้นซับให้แห้งทาด้วยแป้งเด็ก ระหว่างวันหากมีเหงื่อออกให้เอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดหรือซับบริเวณผดผื่นให้แห้ง จากนั้นค่อยทาทับด้วยแป้งเด็ก ประมาณ 2-3 วันก็หายแล้ว
2. ถ้าเห็นว่าผื่นขึ้นเยอะเกินไป แนะนำให้คุณแม่พาลูกน้อยไปพบแพทย์ ทางคุณหมอจะจ่ายยาแก้แพ้ คาลาไมด์ สบู่สำหรับฟอกตัวแก่ลูกน้อยมา วิธีการอาบน้ำไม่แนะนำให้อาบผ่านก๊อกโดยตรง เพราะน้ำอาจร้อนเกินไปสำหรับผิวลูกน้อยให้รองใส่ภาชนะให้เย็นค่อยอาบ สามารถช่วยลดผื่นได้
การรักษาโรคแพ้เหงื่อตัวเอง
1. คุณแม่จะต้องลดหรือควบคุมไม่ให้สามารถเคมีที่ออกฤทธิ์รุนแรง เข้าไปก่อนความระคายเคืองต่อผิวลูกในช่วงเวลาที่คุณทำความสะอาดผิวที่บอบบาง แนะนำให้ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดที่ผสมกับสบู่อ่อนๆ ที่สำคัญจะต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อม และทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากที่เจ้าตัวเล็กมีการขับถ่าย
2. ไม่ควรใช้น้ำที่มีอุณหภูมิที่สูงเกินไปในการทำความสะอาดตัวลูกน้อย
3. คุณแม่จะต้องระวังลูกน้อยให้ไกลจากขนสัตว์ นุ่น หรือฝุ่นละอองที่อาจก่อให้เกิดการแพ้
4. ระวังไม่ให้เจ้าตัวเล็กสัมผัสกับเครื่องสำอาง เพราะในเครื่องสำอางประกอบไปด้วยสารเคมีอาจก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้
5. สำหรับลูกน้อยที่มีผื่น แนะนำให้หมั่นทำความสะอาด เช็ดหรือเป่าลมให้แห้งและควรปล่อยให้ผิวโล่ง เวลาอยู่บ้านไม่จำเป็นต้องใส่ผ้าอ้อมก็ได้
6. กรณีที่เป็นมากคุณแม่อาจต้องปรึกษาคุณหมอในการใช้ยาฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หลีกเลี่ยงอากาศร้อนชื้น งดสวมใส่เสื้อผ้าหนา
7. การอยู่ในห้องปรับอากาศสามารถช่วยลดอาการคัน หรือผดผื่นได้เป็นอย่างดี อาบน้ำให้บ่อยขึ้น ทาแป้งฝุ่น หรือยาแก้คันเสริมเข้าไปสักหน่อยไม่ถึงอาทิตย์ก็หายเป็นปกติ แต่ถ้าแย่ลงไม่ดีขึ้นแนะนำให้พาเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาต่อไป
ป้องกันลูกน้อยจากอาการแพ้เหงื่อได้ยังไง
1. ขั้นแรกแนะนำให้คุณแม่พยายามป้องกันไม่ให้ลูกน้อยทำกิจกรรมกลางแจ้งหรืออยู่ในสถานที่ที่มีอาการร้อนจัด
2. พาลูกน้อยให้ห่างไกลกิจกรรมต่างๆ ที่เรียกเหงื่อ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้รับอาบน้ำทันทีหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม
3. ในวันที่เหงื่อออกจัด หรือวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ให้รีบทำความสะอาดร่างกายฟอกสบู่บริเวณที่เกิดผื่นแดง เช็ดให้แห้งแล้วทาแป้งฝุ่นทันที
4. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน หรืออยู่ในห้องที่มีอุณภูมิที่เย็นจัด เพราะนั่นคือสาเหตุทำให้ผิวแห้งจัดก่อให้เกิดอาการคันเพิ่มขึ้นได้
สิ่งที่คุณแม่จะต้องจัดการคือหมั่นดูแลความสะอาดลูกน้อย เช็ดตัวให้แห้ง ทาด้วยแป้งเด็ก แล้วให้เจ้าตัวเล็กอยู่ในอุณภูมิที่ไม่ร้อนหรืออบอ้าวจนเกินไป รวมไปถึงลดหรืองดกิจกรรมที่เรียกเหงื่อของลูกน้อย
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด ควรเลือกแบบสายผูก หรือแบบกระดุมมากกว่ากัน
2.เสื้อกล้ามรู เสื้อกล้ามเด็กในตำนาน ใช้แล้วดีอย่างไร
