พ่อแม่ เคยสังเกตุบ้างหรือไม่ กับอาการผิดปกติของลูกน้อย อยู่ดีๆ จากเด็กที่เลี้ยงง่าย ไม่ค่อยงอแง แล้วมาวันหนึ่งลุกขึ้นมาร้อง งอแง แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ซึ่งหลายคนอาจไม่ทันคิดว่าลูกจะเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ โดยเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังไม่แพ้โรคติดต่อเลยทีเดียว เพราะถ้าเกิดปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องนั้น อาจทำให้แก้วหูทะลุ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และก่อให้เกิดฝีในสมองได้ ซึ่งหูชั้นกลางอักเสบ อาการเป็นอย่างไร เรามาดูกันเลย

หูชั้นกลางอักเสบ อาการเป็นยังไง

สำหรับโรคหูชั้นกลางอักเสบ อาการของโรคนี้จะเป็นการอักเสบของหูชั้นกลาง ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ระหว่างชั้นในและชั้นนอก โดยจะพบในวัยเด็กมากที่สุด เนื่องจากช่วงวัยเด็กนี้จะมีท่อยูสเตเซียนขนาดเล็ก ทำหน้าที่ในการเชื่อมระหว่างหูชั้นกลางและลำคอสั้นกว่าของผู้ใหญ่ รวมถึงทิศทางในการอยู่แนวระนาบได้มากกว่า ก่อให้เกิดเชื้อโรคจากโพรงจมูก และลำคอ ไหลเข้าสู่หูชั้นกลางได้ง่ายกว่าอีกด้วย

สาเหตุที่ลูกหูชั้นกลางอักเสบ

หูชั้นกลางอักเสบ อาการที่เกิดขึ้นนั้น มีต้นตอ หรือสาเหตุจากการติดเชื้อเอ็นทีเอชไอและแบคทีเรียนิวโมคอคคัส โดยเชื้อดังกล่าวพบได้ในบริเวณโพรงจมูกและลำคอของลูกน้อย ทำให้เชื้อโรคบริเวณโพรงจมูกมีการกระจายเข้าสู่หูชั้นกลางและเกิดการอักเสบในที่สุด จากสถิติเด็กที่เข้ามารักษาพบว่ามีลูกน้อยอายุต่ำกว่า 3 ปีมากถึง 80% เลยทีเดียวที่เคยเป็นหูชั้นกลางอักเสบอย่างน้อย 1 ครั้ง โดยจะมีอาการดังต่อไปนี้

ลูกน้อยรู้สึกปวดหู สำหรับเด็กที่ยังพูดไม่ได้นั้นคุณแม่สามารถสังเกตุได้ง่ายๆ คือมีอาการดึงหู ทุบหู งอแงผิดปกติ ไข้ขึ้นสูง มีอาการคลื่นไส้อาเจียนในบางราย หูอื้อ ประกอบกับน้ำหนองในหูไหลออกมา หากได้รับการรักษาช้าอาจทำให้แก้วหูเกิดการทะลุ ลูกน้อยสูญเสียการได้ยินชั่วคราว อีกทั้งเป็นที่มาของเยื่อหุ้มสมองอักเสบและเกิดฝีในสมองตามมาได้

วิธีการดูแลรักษา

สำหรับลูกน้อย หรือเด็กที่เป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ อาการเบื้องต้นปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจน คุณพ่อคุณแม่จะต้องปฎิบัติดังต่อไปนี้

1.มีการประเมินอาการเบื้องต้นหากสงสัย หรือมีความเสี่ยงรีบพบหมออย่างเร่งด่วน

เมื่อพบอาการ และสงสัยว่าเจ้าตัวเล็กอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นหูชั้นกลางอักเสบนั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะปล่อยผ่าน หรือมองข้ามไปได้เลย ไม่อย่างนั้นจะเกิดอันตรายที่ตามมาอย่างมากมาย ดังนั้นให้คุณพ่อคุณแม่รีบพาลูกน้อยเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อที่จะได้รับการตรวจเช็ค และรักษาได้อย่างท่วงทัน

2.ขั้นตอนการรับการรักษา จากทางคุณหมอ

เมื่อได้รับการวินิจฉัยพบว่าเจ้าตัวเล็กของคุณเป็นหูชั้นกลางอักเสบ อาการเจ็บหู ปวดหู มีหนองในหู ทางการแพทย์ก็จะทำการให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อทำการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้น และนัดตรวจอาการอีกรอบหนึ่งจนกว่าจะหายเป็นปกติ และมั่นใจว่าอาการเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อย

3.คุณพ่อคุณแม่จะต้องทำหน้าที่ในการกำกับดูแล และควบคุมการทานยา

ด้วยยาที่เป็นยาปฏิชีวนะจำเป็นที่จะต้องกินให้หมด แม้ว่าจะหายแล้วก็ตาม โดยทางแพทย์จะมีการจ่ายยาตามระดับความรุนแรงของหูชั้นกลางอักเสบประมาณ 10-14 วัน ย้ำเลยนะคะ ให้ลูกน้อยกินยาให้ครบทุกเม็ด ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปลูกน้อยอาจมีการดื้อยาตัวนี้ได้นั่นเอง

การป้องกันลูกน้อยจากภาวะหูอักเสบ

ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย สำหรับหูชั้นกลางอักเสบ อาการที่ได้กล่าวมาในเบื้องต้น กับลูกน้อยที่เป็นดวงใจของพ่อแม่ ก่อนที่เราจะมาแก้ไข หรือทำการรักษานั้น ลองมาป้องกันก่อนมั้ย จะดีกว่าหรือไม่ถ้าลูกไม่ต้องมาเจ็บตัว ด้วยแนวทางการป้องกันดังนี้

1.สร้างภูมิคุ้มกันแก่ลูกน้อย เพื่อร่างกายที่แข็งแรงต้านทานโรคต่างๆ

Sponsored

แนะนำให้คุณแม่เลี้ยงเจ้าตัวเล็กด้วยนมแม่เองอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ด้วยสารต่างๆ ในน้ำนมแม่นั้นมีภูมิคุ้มกันที่สามารถลดภาวะการติดเชื้อได้มากกว่านมผสม 3-4 เท่าเลยทีเดียว โดยการให้นมนั้นจะต้องระมักระวังไม่ให้น้ำนมไหลย้อนกลับมาเข้าหูชั้นกลางจนทำให้หูอักเสบได้ ซึ่งการให้นมที่ถูกต้องคือการการอุ้มทารกเอียง 45 องศา

2.ฝึกให้ลูกน้อยเลิกดูดขวดให้เร็วที่สุด

บ้านไหนที่ลูกน้อยติดขวด นอนดูขวดนั้นจะต้องเริ่มฝึกให้ลูกเลิกดูดตั้งแต่ 9-12 เดือน ช้าสุดไม่เกิน 18 เดือนเพราะการดูดขวดก่อนนอนนั้นมีโอกาสสูงที่น้ำนมจะไหลเข้าในหู และเกิดการอักเสบติดเชื้อได้

3.การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหูชั้นกลางอักเสบ

ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ลูกน้อยปลอดภัยจากอาการเหล่านี้ ทุกวันนี้การฉีกวัคซีนป้องกันหูชั้นกลางอักเสบเป็นทางเลือกที่คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านเลือกใช้ ซึ่งเห็นผลได้ดีอีกด้วย แต่ก็ยังมีหลายๆ เคสที่พบการดื้อยาเพิ่มขึ้นมา ดังนั้นก่อนการฉีด หรือรับวัคซีนอาจต้องมีการศึกษาควบคู่ไปด้วย

ถึงแม้ว่าหูชั้นกลางอักเสบ อาการที่ได้กล่าวมานั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีแนวทางในการรักษานะคะ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ใส่ใจ คอยสังเกตุ หมั่นปรึกษาแพทย์ ปฏิบัติตามคำแนะนำ เพียงเท่านี้โรคหูชั้นกลางอักเสบ อาการเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำอะไรลูกน้อยของเราได้แล้ว

อ้างอิง : entpmk

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ไข้หวัดในเด็ก และ 5 โรคที่พบบ่อยในช่วงหน้าหนาว

2.สาเหตุนิ้วล็อคในเด็ก และวิธีการดูแลรักษา ที่คุณแม่ต้องรู้