ทารกสะดือโป่ง สำหรับทารก ที่เกิดมาแล้วคุณแม่พบเห็นว่าสะดือของลูกมีอาการโป่ง หรือรู้จักกว่าอีกชื่อว่า “สะดือจุ่น” แล้วเกิดสงสัยว่าเป็นเพราะอะไร และเป็นอันตรายต่อลูกน้อยหรือไม่ วันนี้เรามาหาคำตอบกันดีกว่าค่ะ ว่าสะดือโป่ง หรือสะดือจุ่นนั้น เกิดมากจากอะไร
สะดือจุ่นในทารกเกิดจากอะไร
ภาวะสะดือจุ่น มักพบได้บ่อย กับเด็กทารกแรกเกิด ทางการแพทย์จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ไส้เลื่อนสะดือ Umbilical hernia” ที่พบตั้งแต่แรกเกิด ส่วนมากจะพบกับเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด และพบมากในเพศหญิงมากกว่าเพศชายอีกด้วยค่ะ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเอง โดยไม่ต้องรับการรักษาภายใน 2 ปี
สะดือจุ่นนั้นเกิดจากเมื่อทารกคลอดมาแล้ว ผนังหน้าท้องบริเวณสะดือจะปิดไปตั้งแต่ชั้นของผิวหนัง ชั้นของกล้ามเนื้อและมีชั้นพังผืดเข้ามาปกคลุม แต่หากผนังหน้าท้องส่วนที่อยู่ภายใต้ขั้นผิวหนังปิดไม่สนิทแล้ว จะทำให้บางส่วนของลำไส้เคลื่อนตัวออกมาอยู่ใต้สะดือและดันจนสะดือโป่งได้
ลักษณะอาการของที่พบในเด็กทารก
บริเวณสะดือของทารกจะปรากฎเป็นก้อน ถึงแม้ว่าผิวหนังบริเวณสะดือของลูกจะปิดเรียบร้อยดี แต่ชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ผิวหนังอาจจะมียังมีช่องว่างอยู่ ทำให้บางส่วนของลำไส้ถูกดันให้โผล่ออกมาทางช่องนี้เวลาที่ลูกน้อยเริ่มร้องไห้ ทารกแรกเกิดอาจจะยังไม่เห็นอาการได้ชัดเจน แต่มักจะเห็นชัดขึ้นเมื่อลูกมีอายุประมาณ 2 เดือน บางคนอาจจะมีขนาดใหญ่ โดยเส้นผ่านศูนย์กลาง จะมีขนาดใหญ่ 3 – 4 เซนติเมตร
วิธีการรักษาอย่างถูกต้อง
โดยปกติแล้ว ทารกที่มีอายุ 1 – 2 ปี จะสามารถหายได้เอง แต่หากคุณแม่พบว่าลูกน้อยยังไม่หายสนิท แพทย์อาจจะพิจารณาทำการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด แต่ต้องทำตอนลูกอายุได้ 8 ปีไปแล้ว
แต่หากคุณแม่ท่านใด ที่พบความผิดปกติดังกล่าว แล้วอย่าถึงตกใจไปนะคะ เพราะภาวะใส้เลื่อนสะดือ สามารถรักษาได้ และคุณแม่หลายคนที่เคยเข้าใจแบบผิด ๆ ว่า การที่ลูกน้อยร้องไห้มาก จึงทำให้สะดือจุ่น ตอนนี้คงเข้าใจแล้วใช่ไหมค่ะ ว่าสะดือจุ่นนั้น เกิดจากความผิดปกติของชั้นกล้ามเนื้อผิวหนัง
เมื่อลูกน้อยสะดือจุ่นจะต้องดูแลอย่างไร
สะดือของทารก เป็นสิ่งที่จำเป็นที่คุณแม่ต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ นั่นเพราะ สะดือเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสายใยบาง ๆ ระหว่างคุณแม่และลูกน้อยนั่นเอง สำหรับวิธีการดูแลสะดือของลูกน้อยแบบถูกต้องมีดังนี้ค่ะ
- ก่อนที่คุณแม่จะทำความสะอาดสะดือของลูก คุณแม่ต้องตัดเล็บให้สั้นที่สุด และล้างมือให้สะอาดจึงค่อยเริ่มทำความสะอาดสะดืออย่างเบามือ
- เช็ดทำความสะอาดสะดือให้หมดทุกส่วน โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อระหว่างสายสะดือ กับบริเวณผิวหนัง คุณแม่ควรทำทุกครั้งหลังอาบน้ำให้ลูกเสร็จ หรือควรทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
- เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ได้แก่ แอลกอฮอล์ 70% เบตาดีน หรือตามที่โรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้
- การเช็ดทำความสะอาดนั้นคุณแม่ต้องทำอย่างเบามือที่สุด วิธีการเช็ดที่ถูกต้องคุณแม่ต้องเช็ดวนรอบสะดือเพียงรอบเดียว หากเห็นว่าสะดือยังไม่สะอาดควรเปลี่ยนสำลีก้อนใหม่
- หากคุณแม่สังเกตแล้วพบว่า สะดือมีกลิ่นเหม็น และผิวหนังรอบสะดือมีอาการบวมแดง หรือสะดือยังแฉะอยู่หลายวัน หลังจากสะดือหลุดแล้วคุณพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาอาการผิดปกติทันทีค่ะ
ข้อควรระวัง
- ทุกครั้งที่เช็ดสะดือให้ลูก คุณแม่ต้องทำใจเช็ดให้สะอาด ไม่ควรกลัวว่าลูกจะเจ็บ เพราะหากคุณไม่กล้าที่จะเช็ดสะดือให้ทั่ว อาจส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อยได้
- เมื่อสะดือใกล้หลุด ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะมีน้ำเหลือง หรือเลือกออก คุณแม่ห้ามใช้แป้ง และยาโรยสะดือเด็ดขาด เพราะนั้นเท่ากับว่าเป็นการสะสมการเคมี และกระตุ้นให้ลูกน้อยเกิดอาการเจ็บอย่างมากได้
- ห้ามใช้ยาโรยสะดือทุกชนิด เพราะจะทำให้ดูเหมือนสะดือจะแห้งดี แต่รอยต่อระหว่างสะดือกับผิวหนังหน้าท้อง ยังแฉะอยู่ และที่สำคัญเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อโดยเฉพาะการติดเชื้อที่กระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรมทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้
- คุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกใส่เสื้อผ้าที่ไม่สะอาด หรือนอนแช่ปัสสาวะ เพราะนั้นเท่ากับเป็นการเพาะเชื้อโรคได้ค่ะ
- ไม่ควรห่อ หรือพันผ้าที่สายสะดือ เพราะถ้าผ้าสกปรกจะเกิดการอักเสบติดเชื้อได้มากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับภาวะของอาการสะดือจุ่น หรือสะดือโป่งในทารกนั้น เป็นเรื่องที่พบได้กับทารกทุกคนค่ะ ดังนั้นคุณแม่มือใหม่จึงไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยงกับอันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพของลูก เพราะถ้าคุณแม่สามารถปฏิบัติตามข้อมูลที่เราแนะนำไว้ข้างต้นอย่างเคร่งครัด เชื่อเถอะค่ะว่า ลูกน้อยของคุณจะปลอดภัย แต่หากคุณแม่ที่เกิดความกังวลมาก แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์จะเป็นการดีที่สุดอีกทางหนึ่งค่ะ
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
1.ดัด ยืด ทำสีผมระหว่างตั้งครรภ์ อันตรายหรือไม่
2.ท้องแล้วก็สวยได้....วิธี สวยแบบปลอดภัย สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์