หลังจากคลอดลูกแล้ว ใช่ว่าคุณแม่จะหมดภารกิจ ทั้งเรื่องการดูแลลูกน้อย ให้สมบูรณ์แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็น และที่สำคัญมาก อีกอย่างหนึ่งก็คือการดูแลร่างกายคุณแม่เอง เพื่อจะได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม ในระยะนี้คุณแม่อาจมีอาการบาดเจ็บของบาดแผลหลังคลอดอยู่ได้บ้าง และกำลังจะหายดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ แต่ก็มีคุณแม่บางรายอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอาการปวดท้อง ซึ่งแท้จริงแล้วอาการปวดท้องหลังคลอด เกิดจากสาเหตุใดกับแน่ และมีวิธีการช่วยให้บรรเทาได้หรือไม่ เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ
สาเหตุของอาการปวดท้องหลังคลอด
การปวดท้องมีได้หลายสาเหตุ โดยเฉพาะอาการปวดท้อง ที่เกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอด เพราะอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นได้ อย่างเช่น อาการตกเลือดหลังคลอด ซึ่งจะมีเลือดออกมากผิดปกติร่วมกับอาการปวดท้องนั่นเอง และนอกจากนี้ก็มีสาเหตุอื่นๆ เช่น
1.ผลข้างเคียงจากการผ่าคลอด
ในกรณีที่คุณแม่ผ่าตัดคลอด จึงทำให้มีแผลที่ท้องน้อย และบาดแผลในมดลูกมีขนาดกว้าง จึงทำให้อาการปวดท้องในระยะนี้ได้ นอกจากนี้อาจจะมีอาการปวดบริเวณบาดแผลทั้งภายนอกและภายในมดลูกได้ วิธีแก้ปวดท้องหลังคลอด สามารถทำได้โดยให้คุณแม่นอนราบลงบนที่นอน เพื่อให้มดลูกลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อช่วยให้ได้ฟื้นตัวได้ดีขึ้น พร้อมทั้งกินยาแก้ปวดตามแพทย์สั่งด้วยก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้มาก
2.มดลูกหดตัว
เมื่อคุณแม่คลอดลูกออกมาแล้ว มดลูกที่เคยขยายใหญ่จะค่อยๆ หดตัวเล็กลง เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับเข้าสู่สภาพปกติเหมือนตอนไม่ได้ท้อง แต่จำเป็นต้องใช้เวลาในการให้มดลูกค่อยๆ หดตัวทีละน้อยๆ อาจใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าจะหดเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม ช่วงนี้คุณแม่อาจจะมีอาการปวดแบบชาๆ บริเวณหน้าท้องและมดลูกได้ โดยส่วนใหญ่จะปวดมากในช่วงในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น จนกระทั่งมดลูกเข้าอู่ สำหรับปวดท้องหลังคลอด ในคุณแม่ที่คลอดลูกมาแล้ว 2-3 คน จะมีอาการปวดได้มากกว่าคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกคนแรก
3.ท้องผูก
อาการปวดท้อง อีกประการหนึ่งที่คุณแม่หลังคลอดมักจะเจอได้บ่อยๆ คือ การปวดท้องที่เกิดจากมีอาการท้องผูก ซึ่งมักเกิดจากปัญหาการบีบตัวของลำไส้ หรือการเคลื่อนไหวของลำไส้ที่ผิดปกติ จึงทำให้คุณแม่รู้สึกปวดท้องได้ และในบางครั้งอาจเกิดจากปัญหาระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ยังตกค้างจากการตั้งครรภ์ ตลอดจนอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาที่กิน จนทำให้คุณแม่มีอาการท้องผูกได้เช่นกัน
วิธีบรรเทาอาการปวด
เมื่อมีปวดท้องหลังคลอด สามารถบรรเทาอาการด้วยตัวเองเบื้องต้นได้ดังนี้
1.ใช้ถุงประคบร้อน
การประคบร้อน เป็นวิธีที่ช่วยลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และช่วยในการไหลเวียนเลือดได้ดี เมื่อนำมาประคบหน้าท้องจะช่วยลดอาการปวดท้องลงได้ นอกจากนี้ยังใช้ความร้อนจากก้อนหินมาอังไฟพออุ่นแล้วห่อผ้าหลายๆ ชั้น ให้มีความอุ่นพอเหมาะ แล้วนำมาวางไว้บนหน้าท้อง โดยคุณแม่นอนราบกับพื้น พร้อมทั้งใช้มือคอยเคลื่อนก้อนหินขยับวนไปรอบๆ มดลูก จะช่วยให้มดลูกหดตัวได้ดีขึ้น บรรเทาอาการปวดท้องได้ดี
2.แช่น้ำอุ่น
วิธีผ่อนคลายปวดท้องหลังคลอด อีกอย่างหนึ่งคือ หลังการประคบร้อน อาจจะลงแช่ในน้ำอุ่นประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย การลงแช่น้ำอุ่นในอ่างจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่หดเกร็ง มีการคลายตัวลง จนรู้สึกได้ว่าเบาสบายตัวมากขึ้น นอกจากนี้ความอุ่นของน้ำจะช่วยให้อาการปวดตึงบริเวณเอวด้านหลังที่เคยปวดจากการถูกมดลูกดึงรั้ง เริ่มผ่อนคลายขึ้นได้ จึงช่วยลดอาการปวดท้องลงไปได้มาก แต่การลงแช่น้ำในอ่างขณะหลังจากคลอดลูก ต้องมีความระมัดระวังเรื่องความสะอาดด้วยการล้างทำความสะอาดภาชนะที่ใส่น้ำให้สะอาด ก่อนนำมาใช้ และต้องมั่นใจแล้วว่าบาดแผลผ่าตัดโดนน้ำได้แล้วไม่มีปัญหาการอักเสบของบาดแผลผ่าตัด รวมถึงฝีเย็บในขณะที่ลงแช่น้ำ ซึ่งการแช่น้ำอุ่น สามารถลดอาการปวดท้องบริเวณมดลูก ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการปวดท้องได้ดีมาก
3.ทานยาลดอาการปวด พาราเซตามอล
เมื่อปวดท้องมาก ได้ลองวิธีอื่นๆ แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น สามารถกินยาแก้ปวดได้ ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง หรือเฉพาะเวลาปวด
4.นอนในท่าที่คุณแม่รู้สึกสบาย
การนอนพักในท่านอนที่รู้สึกสบาย และผ่อนคลาย จะช่วยให้ปวดท้องหลังคลอด ลดลงได้อีกทางหนึ่งด้วย
5.ดื่มน้ำสมุนไพร
การดื่มสมุนไพรประเภท น้ำขิง น้ำตะไคร้ น้ำกระเพรา น้ำขมิ้น และน้ำกระชายปั่น จะช่วยให้อาการปวดท้องลดลงได้
หากคุณแม่มีอาการท้องผูกร่วมด้วยก็ควรดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น และน้ำมะนาวจะช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง และช่วยระบบขับถ่ายให้ถ่ายสะดวก จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายเบาตัวมากขึ้นอีกด้วย
อาการแบบไหนต้องไปพบแพทย์
สำหรับปวดท้องหลังคลอด ที่ต้องไปพบแพทย์ทันทีมีอาการแบบไหนบ้าง
1.ให้รู้จักสังเกตุอาการปวดมดลูกหลังคลอดแบบไหน ที่ถือว่าผิดปกติ
2.เมื่อรู้สึกปวดท้องมากกว่าปกติ โดยเฉพาะอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ได้ให้นมลูก
3.น้ำคาวปลาไหลในปริมาณมากขึ้น และมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย
4.มีไข้ หนาวสั่น
5.มีเลือดออกจำนวนมากพร้อมลิ่มเลือด อาจเสี่ยงตกเลือดหลังคลอดได้
ปวดท้องหลังคลอด อาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะขณะลูกดูดนม ซึ่งเกิดจากการหดรัดตัวของมดลูก และเป็นอาการปกติทั่วไปที่คุณแม่ทุกคนต้องได้สัมผัสด้วยตัวเอง เป็นอาการที่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่เมื่อไหร่คุณแม่มีอาการผิดปกติไปจากที่แนะนำมานี้ ก็ควรไปพบแพทย์ทันที
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่