เมื่อตั้งครรภ์มาถึงเดือนที่ 9 แล้ว คุณแม่รู้ไหมว่าทารกในครรภ์มีพัฒนาการอย่างไรบ้าง พร้อมที่จะคลอดออกมาแล้วหรือยัง ซึ่งวันนี้เราก็จะพาคุณแม่ไปดูพัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือนกันค่ะ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น อยากรู้ต้องไปดูกันเลย

พัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือน เป็นอย่างไร

ทารกในครรภ์ 9 เดือนนี้ จะมีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวประมาณ 2,800-3,000กรัม ระบบต่างๆ ในร่างกายเริ่มทำงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปอดที่ทำงานได้เต็มที่ขึ้น หรือสมองที่ใช้ควบคุมการทำงานของส่วนต่างๆ รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่พร้อมจะพัฒนาการต่อหลังการคลอด นอกจากนี้พัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือนยังมีการปฏิกิริยาในการตอบสนองได้ดี โดยคุณแม่จะเห็นได้หลังคลอดเมื่อลูกคว้าจับมือ หรือดูดนมคุณแม่ และในช่วงนี้ทารกก็อยู่ในท่าพร้อมคลอด คือกลับตัวเอาหัวลงแล้วอีกด้วย

อาหารบำรุงครรภ์ที่แนะนำ

เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ อาหารก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกทานอาหารที่ให้พลังงานสูง ย่อยได้ง่าย ส่งเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือน และช่วยให้มีน้ำนมหลังคลอด ซึ่งอาหารที่แนะนำในช่วงนี้ ได้แก่

1.วิตามินเค

คุณแม่ที่ขาดวิตามินเค มีผลให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดได้ เนื่องจากวิตามินเคช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็ว ทำให้คุณแม่ไม่ต้องเสียเลือดมาก และยังช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังคลอดด้วย โดยวิตามินเค พบมากในอาหารเหล่านี้ ถั่ว ผักกาดหอม ดอกกะหล่ำ บล็อกโคลี่ ผักโขม และอะโวคาโด

2.วิตามินซี

วิตามินซีช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายของคุณแม่หลังคลอดได้ดี และยังช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง จึงป้องกันไม่ให้เกิดเลือดออกตามไรฟัน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ทำให้เจ็บป่วย หรือเป็นหวัดง่ายๆ ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์มักมีภูมิต้านทานที่ต่ำกว่ากว่าคนทั่วไป

3.เกลือแร่และเอนไซม์ต่างๆ

อาหารบำรุงครรภ์จำพวก เนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ ถั่วต่างๆ บล็อกโคลี่ และผักโขม มีเกลือแร่และเอนไซม์ ที่ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้แก่เซลล์กล้ามเนื้อ จึงช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น และดีต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือนอีกด้วย

4.สังกะสี

สังกะสีนั้น นับเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในช่วงตั้งครรภ์ เพราะช่วยบำรุงมดลูกให้แข็งแรง ดีต่อพัฒนาการทารก 9 เดือน และยิ่งช่วงใกล้คลอด การกินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ตับ หอยนางรม อาหารทะเล เมล็ดฟักทอง นมสด และไข่ จะช่วยให้น้ำนมของคุณแม่ไหลเวียนได้ดีหลังคลอด นอกจากนี้ขอแนะนำให้กินแร่ธาตุสังกะสีที่พบในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เพราะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าสังกะสีที่ได้จากพืชนั่นเอง

5.อาหารที่ให้พลังงานสูง

ยิ่งใกล้คลอดคุณแม่จำเป็นต้องสะสมพลังงานไว้ โดยเฉพาะคุณแม่คลอดบุตรเอง ที่ต้องออกแรงเบ่งลูก ควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินบี 1 และวิตามินซี เพื่อป้องกันอาการอ่อนเพลียหลังคลอดของคุณแม่ นอกจากนี้ยังดีต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือนด้วย

6.อาหารบำรุงน้ำนม

ในช่วงเดือนที่ 9 ของการตั้งครรภ์นั้น คุณแม่ควรกินอาหารเพื่อช่วยเรียกน้ำนม อาหารที่กินควรมีฤทธิ์ให้ความร้อนแก่ร่างกาย เมื่อร่างกายอบอุ่น ระบบเลือดไหลเวียนได้ดี ก็จะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้มากขึ้น โดยสมุนไพรไทยหลายชนิดนั้น ก็มีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยกระตุ้นน้ำนมได้เป็นอย่างดี เช่น ใบกระเพรา กุยช่าย ขิง ใบแมงลัก พริกไทย หัวปลี ฟักทอง เป็นต้น

คำแนะนำสำหรับคนท้อง 9 เดือน

เมื่อใกล้คลอดเข้ามาทุกที อาจมีสิ่งที่คุณแม่นึกไม่ออกว่าต้องทำอะไรกันบ้าง ดังนั้นเราจึงมีคำแนะนำมาฝากแม่ๆ กัน ดังต่อไปนี้

1.ไปพบแพทย์ทุกสัปดาห์

ในช่วงเดือนนี้ แพทย์จะนัดตรวจครรภ์คุณแม่ทุกสัปดาห์ เพื่อตรวจอาการก่อนคลอด สุขภาพคุณแม่และทารกในครรภ์ รวมทั้งความผิดปกติอื่นๆ ดังนั้นการเฝ้าสังเกตอาการที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยถ้าพบว่ามีอาการเหล่านี้ เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอด น้ำเดิน ปวดหลังไม่หาย รู้สึกว่ามีลมเบ่ง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

Sponsored

2.วางแผนการคลอด

คุณแม่ต้องวางแผนการคลอด เพื่อช่วยให้การคลอดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกโรงพยาบาลที่จะคลอด วิธีการคลอด การเตรียมร่างกายก่อนคลอด วางแผนการเดินทางเพื่อไปโรงพยาบาล บุคคลที่สามารถติดต่อได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ห้องพักฟื้นหลังคลอด จนกระทั่งการให้นมลูกหลังคลอด เป็นต้น

3.เตรียมห้องนอนและของใช้เด็กทารก

คุณแม่สามารถเตรียมห้องนอนเพื่อใช้เลี้ยงทารก รวมทั้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้เรียบร้อย เพราะเมื่อคุณแม่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะไม่มีเวลา ไปเดินเลือกซื้อของต่างๆ เช่น เสื้อผ้าทารก ผ้าอ้อม เครื่องใช้ในการอาบน้ำเด็ก ขวดนม เครื่องปั๊มนม เป็นต้น

4.เตรียมตัวไปโรงพยาบาล

คุณแม่จำเป็นต้องจัดของใส่กระเป๋าเพื่อไปโรงพยาบาลไว้ล่วงหน้าได้แล้ว เพราะอาจมีเหตุให้คลอดฉุกเฉินได้ทุกเมื่อ ซึ่งคุณแม่สามารถขอคำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ เกี่ยวกับสิ่งของที่ต้องนำไปในวันคลอดลูก

5.หาวิธีคลายเครียด

ช่วงนี้คุณแม่อาจรู้สึกเหนื่อยกับการเตรียมของ แถมยังรู้สึกกังวลกับการคลอดลูกอีก ดังนั้น คุณแม่จึงควรหาเวลาพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย หรือหาผู้ช่วยมาจัดเตรียมของใช้ และพูดคุยเรื่องต่างๆ ก็น่าจะช่วยให้คุณแม่หายเครียดลงได้

เมื่อเข้าสู่ช่วงนี้แล้ว พัฒนาการทารกในครรภ์ 9 เดือนก็พร้อมทำงานเต็มที่ ซึ่งตัวคุณแม่เองก็อาจเจ็บท้องได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการดูแลตัวเอง โดยหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลง หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้น แล้วรีบไปพบแพทย์ ก็จะช่วยให้การคลอดนั้นเป็นไปอย่างปลอดภัยค่ะ

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ตั้งครรภ์ท้องอืด ปัญหาที่แม่ท้องมักจะต้องเจอบ่อยๆ

2.การตั้งครรภ์ กับการดูแลจุดซ่อนเร้นตอนท้อง ที่ไม่ควรมองข้าม