เมื่อลูกเป็นไข้หวัด คุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้าสังเกตอาการของลูกอย่างใกล้ชิด ซึ่งในเด็กเล็กจะมีร่างกายอ่อนแอและบอบบางอีกทั้งภูมิต้านทานต่อโรคยังไม่ดีพอ จึงทำให้เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการเป็นไข้หวัดได้ง่าย เมื่อลูกเป็นไข้หวัดแต่ละครั้งก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องลำบากในการดูแล ด้วยความที่ลูกยังไม่สามารถบอกอาการของตัวเองได้ จึงทำให้การดูแลเป็นไปได้ยากกว่าวัยอื่น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลเด็ก เมื่อลูกน้อยเป็นไข้หวัดกับ 8 วิธีดังต่อไปนี้
วิธีดูแล เมื่อลูกน้อยป่วยเป็นไข้หวัด
สำหรับวิธีการดูแลเมื่อลูกน้อยป่วยเป็นไข้หวัด ก็ไม่ยากเลย ด้วย 8 วิธีดังต่อไปนี้
1.สังเกตอาการไข้ของลูก
เมื่อเด็กป่วยเป็นไข้หวัด ส่วนใหญ่แล้วในช่วงแรกๆ ก็จะมีอาการที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด คือ ใบหน้าแดง ผิวหนังแดง ผิวแห้ง รูขุมขนปิด เมื่อสัมผัสจะรู้สึกร้อนผ่าว ซึ่งเกิดจากความร้อนที่สะสม จนทำให้ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ ลูกน้อยจะมีอาการไข้สูง อุณหภูมิส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณที่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป หากลูกมีอาการดังนี้ควรให้ลูกนอนพักผ่อน พร้อมทั้งเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น เพื่อจะได้ระบายพิษร้อนออกจากร่างกาย หลังจากนั้นจึงให้ลูกกินยาลดไข้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะจากพิษไข้ ช่วยให้ไข้ลดลงได้ แต่หากเด็กได้กินยาลดไข้แล้วไข้ยังไม่ลด ต้องรีบนำมาพบแพทย์โดยด่วน
2.ระบายน้ำมูกและเสมหะ
เมื่อลูกน้อยเป็นหวัดมักจะมีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาร่วมกับอาการคัดจมู กหายใจไม่สะดวก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องช่วยลูกน้อยในการระบายน้ำมูกที่ค้างอยู่ในโพรงจมูกให้ออกมา โดยวิธีการใช้ผ้านุ่มๆ ชุบน้ำและบีบให้แห้งหมาดๆ หลังจากนั้นม้วนสอดเข้าไปในจมูกลูกเพื่อซับน้ำมูกออกมา หรือดูดด้วยหลอดดูดน้ำมูก ลูกยางแดงก็ได้ แต่หากเด็กไม่ยอมให้ทำก็อาจจะใช้วิธีการหยดน้ำเกลือเข้าไปในจมูก หรือถ้าเด็กที่โตแล้วอาจจะให้เขาสั่งน้ำมูกเองก็ได้
3.ให้ลูกกินยาลดไข้
หลังจากเช็ดตัวให้ลูกแล้ว หากไข้ยังไม่ลด คุณแม่ควรป้อนยาลดไข้ให้ลูกเสริม คือยาพาราเซตามอล ซึ่งสามารถให้ลูกกินได้ทุกวัย ส่วนในเด็กเล็กมักจะมียาชนิดเป็นน้ำ ซึ่งให้กินตามปริมาณที่กำหนดไว้ในฉลากยา โดยให้กินยาทุก 4-6 ชั่วโมง
4.ให้กินอาหารที่ย่อยง่าย
เมื่อเด็กเป็นหวัดมักจะเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อย คุณแม่จำเป็นต้องให้ลูกกินอาหารที่ย่อยง่าย ซึ่งสามารถที่จะนำกล้วย ฟักทอง มันฝรั่งต้ม ข้าวต้ม โจ๊ก ขนมปัง หรืออาหารอื่นๆ มาป้อนลูกเพื่อช่วยให้ลูกได้รับเกลือแร่ และวิตามินได้มากขึ้น เช่น ผลไม้ปั่นจนละเอียดจนสามารถดูดกินได้ จะช่วยทำให้ลูกสะดวกในการกิน และช่วยให้ลูกรู้สึกสดชื่น เพราะมีสารอาหารที่ร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้ทันที
5.ให้ลูกกินซุปไก่
อาหารที่ย่อยง่ายเหมาะสำหรับให้เด็กกินขณะเป็นไข้ คือซุปไก่ หากต้มซุปไก่ร้อนๆ ให้ลูกกินจะช่วยให้อาการเป็นไข้ เจ็บคอเป็นหวัด คัดจมูก และช่วยให้เสมหะลดลง นอกจากนี้การที่เด็กได้กินโปรตีนจากซุปไก่ก็จะทำให้เข้าไปเสริมร่างกายให้มีสารต้านการอักเสบได้ดีขึ้น
6.ดื่มน้ำมากๆ
เมื่อเป็นหวัดร่างกายจำเป็นต้องระบายความร้อน ซึ่งอยู่ภายในให้ออกมา คุณแม่ควรนำน้ำมาป้อนให้ลูกดื่มบ่อยๆ จะช่วยให้ร่างกายได้ถ่ายเทพลังความร้อนออกมาทางการปัสสาวะและเหงื่อ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการสูญเสียน้ำจากสภาวะที่เด็กมีไข้สูง นอกจากน้ำเปล่าที่ให้ลูกดื่มแล้ว น้ำผลไม้คั้นสดก็จำเป็นต่อร่างกายขณะที่เจ็บป่วย เพราะมีเกลือแร่ และวิตามินอยู่ครบถ้วน ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานได้ดีขึ้น
7.ให้ลูกพักผ่อนมากๆ
การนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายพักผ่อนและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เมื่อเด็กป่วยควรให้เด็กได้นอนหลับมากขึ้นกว่าเดิม จะช่วยให้อาการไข้หวัดหายได้เร็วขึ้น
8.จัดที่นอนของลูกให้เหมาะสม
จัดที่นอนเด็กให้เหมาะสม เพื่อสะดวกในการหายใจของเด็ก โดยการจัดให้หมอนสูงขึ้นจะช่วยให้การหายใจของลูกหายใจได้สะดวกขึ้น ส่วนสภาพแวดล้อมบริเวณห้องนอนควรเงียบสงบ สะอาด โล่ง โปร่ง ปราศจากฝุ่นควัน เสียงรบกวน และมีอุณหภูมิที่เหมาะแก่การพักผ่อน
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจในความรู้สึกของลูก ซึ่งช่วงเจ็บป่วยลูกจะมีความต้องการให้คุณพ่อคุณแม่เอาใจใส่ดูแลมากกว่าในช่วงปกติ ถ้าเป็นเด็กเล็กอาจจะมีอาการร้องไห้โยเยมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่จะเป็นต้องอุ้มเพื่อปลอบให้ลูกรู้สึกอบอุ่นทางใจ จะทำให้ลูกรู้สึกดี ผ่อนคลาย เมื่อสภาพจิตใจดีจะทำใหทำให้อาการทางกายทุเลาลงได้เร็วขึ้น ส่วนเด็กเล็กอาจจะต้องเพิ่มการทำกิจกรรมด้วยกันมากขึ้น ไม่ว่าจะอ่านนิทานให้ลูกฟัง หรือดูการ์ตูนด้วยกัน ก็ล้วนแต่ทำให้เด็กมีจิตใจร่าเริงเบิกบาน ล้วนส่งผลดีต่อการช่วยให้อาการไข้หวัดหายดีในเร็ววัน
การดูแลลูกน้อยเมื่อเจ็บป่วยเป็นไข้หวัดด้วยวิธีที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการช่วยให้อาการเจ็บป่วยทุเลาลงได้มากขึ้น เพราะการดูแลเอาใจใส่ที่ดี จากคุณพ่อคุณแม่จะช่วยลูกน้อย ลดความเสี่ยงจากการเกิดอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นง่ายขณะเจ็บป่วย นอกจากนี้การดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิดจะทำให้ลูกได้รับความอบอุ่น ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูกอีกด้วย
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..