อาการครรภ์เป็นพิษ ที่เกิดกับคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ เป็นภาวะเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อเป็นแล้วจะมีอันตราย ต่อชีวิตของแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ วันนี้เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวอาการของครรภ์เป็นพิษมาบอกให้รู้กันว่าเป็นอย่างไร มีอาการแบบไหนบ้าง เพื่อที่คุณแม่จะได้สังเกตตัวเองว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดครรภ์เป็นพิษหรือไม่นั่นเอง

8 อาการของครรภ์เป็นพิษ มีอะไรบ้าง

อาการของครรภ์เป็นพิษในคุณแม่แต่ละราย มีความแตกต่างกันไปตามสภาวะของร่างกายแต่ละคน ซึ่งอาการส่วนใหญ่ที่แสดงให้เห็นจะมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยขึ้นไป จนถึงอาการรุนแรง ซึ่งอาการที่พอจะสังเกตได้มีดังนี้

1.ความดันโลหิตสูงขึ้นตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป โดยมีการตรวจวัดความดันที่อยู่ในระดับนี้ตั้งแต่ 2 ครั้ง และมีระยะห่างในการวัดความดันแต่ละครั้งอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

2.ตรวจพบโปรตีนหรือไข่ขาวส่วนเกินในปัสสาวะ นอกจากโปรตีนไข่ขาวแล้ว อาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยที่แสดงว่าไตเริ่มมีปัญหา

3.ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าจะได้กินยาแก้ปวดแล้วก็ตาม อาการก็ยังไม่ลดลง อีกทั้งยังปวดบริเวณหน้าผากและท้ายทอยมากขึ้นด้วย

4.ชักกระตุกทั้งตัว ในคุณแม่ที่มีอาการรุนแรงจะทำให้มีอาการชักและกระตุกได้

5.มีปัญหาทางสายตา ทำให้มีอาการตาพร่ามัว และไวต่อแสงผิดปกติ

6.การหายใจไม่อิ่ม เนื่องจากปอดมีของเหลวอยู่ภายใน

7.มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับอาการปวดท้องส่วนบน บริเวณใต้ลิ้นปี่

8.มีอาการบวม ช่วงนี้คุณแม่ที่มีอาการของครรภ์เป็นพิษจะมีอาการบวมน้ำตามร่างกายที่พบได้ เช่นใบหน้าบวม มือบวม ข้อเท้าบวม รวมถึงหลังเท้าบวม อีกด้วย

ครรภ์เป็นพิษ รุนแรงแค่ไหน

ความรุนแรงของอาการครรภ์เป็นพิษ แบ่งออกได้เป็น 3 ระดับดังนี้

1.ระดับไม่รุนแรง

คุณแม่ที่มีอาการของครรภ์เป็นพิษจะมีความดันโลหิตสูง ตั้งแต่ 140/90-160/110 มิลลิเมตรปรอท แต่มักไม่พบภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น

2.ระดับรุนแรง

คุณแม่ที่มีอาการครรภ์เป็นพิษจะมีความดันโลหิตสูงมากกว่า 160/110 มิลลิเมตรขึ้นไป รวมทั้งการตรวจพบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เกิดขึ้น เช่น มีตับอักเสบร่วมด้วย ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ไตทำงานได้ไม่ดี รวมถึงเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้ง่าย

3.ระดับอันตราย

คุณแม่ที่มีอาการของครรภ์เป็นพิษ จะมีอาการชัก เกร็ง และถึงขั้นหมดสติ ในระยะนี้จะต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้ได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้คุณแม่และลูกน้อยในครรภ์เสียชีวิตได้

ภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวัง

ภาวะแทรกซ้อนของอาการครรภ์เป็นพิษที่พบได้มีด้านใดบ้าง

1.ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า

อาการของครรภ์เป็นพิษ ส่งผลโดยตรงต่อหลอดเลือดที่เชื่อมต่อกับรก ทำให้รกได้ออกซิเจนรวมถึงสารอาหารไม่เพียงพอ จึงเติบโตช้า หรือในบางรายอาจจะทำให้ทารกคลอดออกมาแล้ว มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์

2.คลอดก่อนกำหนด

คุณแม่ที่มีอาการของครรภ์เป็นพิษรุนแรง อาจจำเป็นต้องทำการคลอดก่อนกำหนด เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่รวมถึงลูกในท้องด้วย สำหรับการทำคลอดก่อนกำหนดครั้งนี้ อาจทำให้ลูกน้อยมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบการหายใจและด้านอื่นๆ ได้

3.รกลอกตัวก่อนกำหนด

อาการครรภ์เป็นพิษ เกิดจากภาวะที่รกหลุดลอกจากโพรงมดลูกก่อนถึงกำหนดที่ลูกน้อยจะคลอด จึงทำให้มีความเสี่ยงในคุณแม่ เพราะอาจเกิดเลือดออกอย่างรุนแรง และเป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งสองคนได้

4.กลุ่มอาการ HELLP

Sponsored

เป็นภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงจากอาการครรภ์เป็นพิษ ที่ทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ทั้งคุณแม่และลูกน้อย ซึ่งจะทำให้เม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดแดงแตก ค่าตับมีโอกาสอักเสบสูงขึ้น รวมถึงมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าจะเกิดความเสียหายในอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย

5.ชัก

หากคุณแม่มีอาการรุนแรง มีอาการปวดศีรษะมากจนทนไม่ไหว และถึงขั้นชักหมดสติ จำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์ทันที

6.อวัยวะได้รับความเสียหาย

อาการ ครรภ์เป็นพิษ มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้อวัยวะสำคัญต่างๆ เสื่อมลง ส่งผลเสียหายต่อร่างกายอย่างรุนแรงถึงขั้นพิการและเสียชีวิตได้ง่าย

7.โรคหัวใจและหลอดเลือด

อาการครรภ์เป็นพิษ มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้มาก หากคุณแม่เคยมีประวัติมีภาวะครรภ์เป็นพิษมาก่อนมากกว่า 1 ครั้ง หรือเคยคลอดก่อนกำหนด ก็มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดครรภ์เป็นพิษได้สูง

วิธีการรักษา

วิธีการรักษาอาการครรภ์เป็นพิษในคุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถทำได้ตามระดับความรุนแรงของอาการ ซึ่งแยกได้ดังนี้

1.การรักษาอาการครรภ์เป็นพิษในระดับไม่รุนแรง

หลังจากได้รับการตรวจรักษาแล้ว แพทย์จะให้คุณแม่กลับบ้าน เพื่อติดตามอาการที่บ้าน และนัดมาตรวจอาการอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเฝ้าระวังความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งการมาตามนัดเพื่อพบแพทย์แต่ละครั้ง ก็จะได้รับการตรวจอัลตร้าซาวด์ ตรวจคลื่นหัวใจของลูกน้อยในครรภ์ รวมถึงตรวจเลือดและปัสสาวะของคุณแม่ เพื่อจะได้ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้แพทย์จะให้คำแนะนำให้คุณแม่กลับมาพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้

2.การรักษาอาการครรภ์เป็นพิษในระดับที่รุนแรงปานกลาง

หากคุณแม่ที่มีอาการของครรภ์เป็นพิษในระดับไม่รุนแรงมาก และมีอายุครรภ์ยังน้อยแพทย์ก็จะดูแลโดยการประคับประคองให้อายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์เพื่อจะได้ทำคลอดอย่างปลอดภัย สำหรับคุณแม่ที่มีอาการครรภ์เป็นพิษ แต่ไม่รุนแรงมาก และมีอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ไปแล้ว แพทย์อาจจะทำการคลอดลูกออกมาก่อนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

3.การรักษาภาวะครรภ์เป็นพิษชนิดรุนแรง

สำหรับคุณแม่ที่ป่วยด้วยอาการครรภ์เป็นพิษแบบรุนแรง จำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และได้รับการรักษาทันทีซึ่งแพทย์อาจจะให้ยาลดความดันโลหิต และยาชนิดอื่นๆ ตามความเสี่ยงของคุณแม่

อาการครรภ์เป็นพิษ เป็นภาวะที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ การเฝ้าระวังและสังเกตุอาการ ว่าใกล้เคียงกับที่กล่าวมาหรือไม่ หากพบว่าใช่ก็จะช่วยให้คุณแม่ทราบถึงอาการแต่เนิ่นๆ และได้รับการรักษาได้ทันเวลา และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตนั่นเอง

= = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ตรวจก่อนรู้ก่อน ลูกรอด แม่ปลอดภัย จากภาวะครรภ์เป็นพิษ

2.ครรภ์เป็นพิษ ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก