ช่วงนี้คุณแม่ก็ใกล้จะได้เห็นหน้าลูกแล้ว ซึ่งพัฒนาการทารกในครรภ์ 8 เดือน จะมีการพัฒนาเกือบสมบูรณ์ และพร้อมที่จะคลอดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตามคุณแม่บางคนอาจคลอดก่อนกำหนดได้ ดังนั้นจึงต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ โดยวันนี้เราก็จะพาไปดูกันว่าทารกในครรภ์ 8 เดือนมีพัฒนาการอย่างไร พร้อมคำแนะนำดีๆ สำหรับคุณแม่ดังนี้

พัฒนาการทารกในครรภ์ 8 เดือน เป็นอย่างไร

ในช่วงครรภ์ 8 เดือน ทารกในครรภ์จะมีความยาวประมาณ 80 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 1,600กรัม ผมของทารกเกือบขึ้นเต็มศีรษะแล้ว ส่วนเล็บมือและเท้าก็งอกยาวเช่นกัน ลำตัวก็เริ่มเป็นสีชมพู แต่ผิวหนังยังคงเหี่ยวย่น ช่วงนี้คุณแม่จะรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของลูกน้อยได้อย่างชัดเจน เพราะทารกในครรภ์จะเหยียดแขนเหยียดขา หรือเตะผนังหน้าท้องจนทำให้คุณแม่นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว และเด็กบางคนก็อยู่ในท่าเตรียมตัวคลอดแล้วด้วย ซึ่งนี่ก็คือพัฒนาการทารก 8 เดือนที่พบเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

อาหารบำรุงครรภ์ที่แนะนำ

ทารกในครรภ์ 8 เดือน ยังมีน้ำหนักตัวไม่มากพอที่จะออกมาภายนอกอย่างปลอดภัย คุณแม่จึงควรบำรุงครรภ์ด้วยอาหารคนท้องที่มีประโยชน์และช่วยเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์ 8 เดือนได้ดี ซึ่งสารอาหารต่างๆ ที่คุณแม่ได้รับนั้น จะช่วยเสริมสร้างกระบวนการผลิตน้ำนมในช่วงนี้ด้วย โดยสารอาหารที่คุณแม่ควรได้รับมีดังต่อไปนี้

1.โปรตีน

โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์ รวมถึงพัฒนาการทารกในครรภ์ 8 เดือน ซึ่งถ้าพบว่าทารกมีน้ำน้อยกว่าเกณฑ์ คุณแม่จำเป็นต้องเพิ่มน้ำหนักของลูก ด้วยการกินอาหารประเภทโปรตีนเพิ่มขึ้น เช่น เนื้อปลา อกไก่ ไข่ เต้าหู้ ถั่ว นม โยเกิร์ต เป็นต้น
2.วิตามินซี

วิตามินซีนั้นช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงไม่เป็นหวัดง่ายๆ และที่สำคัญวิตามินซียังมีส่วนช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้ร่างกายของคุณแม่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ โดยผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีนั้น ได้แก่ ส้ม ฝรั่ง

3.วิตามินดี

ในช่วงนี้กระบวนการผลิตเริ่มน้ำนมเริ่มทำงาน ดังนั้นคุณแม่จึงควรกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดี เพื่อเป็นการเตรียมน้ำนมให้แก่ลูกน้อย อีกทั้งยังช่วยเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์ 8 เดือนได้ด้วยโดยวิตามินดีพบได้ในอาหารดังต่อไปนี้  เช่น ปลาทู ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลาไหล ปลาแมคคาเรล นม เนย ไขมัน ไข่แดง ผักใบเขียว แครอท และฟักทอง

4.แคลเซียม

การกินแคลเซียมอย่างเพียงพอ จะช่วยบำรุงกระดูกของคุณแม่ให้แข็งแรง จึงช่วยบรรเทาอาการปวดหลังขณะตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้แคลเซียมยังช่วยปกป้องกะโหลกศีรษะของลูกให้มีความแข็งแรง ไม่ให้บิดเบี้ยวในระหว่างการคลอด ดังนั้นคุณแม่จึงไม่ควรพลาด อาหารเหล่านี้ นม ข้าวกล้อง ปลาตัวเล็กต้วน้อย คินัว และอะโวคาโด เป็นต้น

5.ธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็กจะช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง เพื่อช่วยส่งอาหารไปยังทารกในครรภ์ ทำให้พัฒนาการทารกในครรภ์ 8 เดือนเป็นไปด้วยดีและยิ่งช่วยใกล้คลอด คุณแม่ยังต้องการเลือดมาเลี้ยงร่างกายในปริมาณที่มากขึ้น ดังนั้นคุณแม่ควรกินอาหารที่ธาตุเหล็กด้วย

คำแนะนำสำหรับคนท้อง 8 เดือน

เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 8 ของการตั้งครรภ์ คุณแม่ที่ทำงานนอกบ้าน ควรต้องเริ่มฝากงานให้ผู้อื่นช่วยดูแล เพื่อจะได้เตรียมพร้อมกับการดูแลลูกน้อยที่กำลังจะคลอดในไม่ช้า ดังนั้นมาดูกันสิว่า ในช่วงเดือนนี้คุณแม่ควรทำอะไรกันบ้าง

1.กินอาหารที่ย่อยง่าย

การบำรุงครรภ์ก็สำคัญ ดังนั้นจึงควรกินอาหารให้หลากหลาย โดยเน้นอาหารที่ย่อยง่ายเป็นหลัก แต่คุณแม่ต้องไม่เผลอกินมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ท้องอืด จุกเสียด จนกระทั่งเกิดอาการหายใจไม่สะดวกขึ้น เนื่องมาจากระบบการเผาผลาญที่ทำงานได้น้อยลง ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณแม่แบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ แทนจะดีกว่า

2.ระวังอุบัติเหตุ

ในช่วงนี้ ท้องคุณแม่จะใหญ่ขึ้นมาก อาจทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นไปอย่างยากลำบาก รวมทั้งอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่ายๆ ดังนั้นคุณแม่ควรระวังอุบัติเหตุที่อาจทำให้ร่างกายเกิดกระทบกระเทือน โดยเฉพาะกับบริเวณหน้าท้อง ซึ่งถ้าคุณแม่รู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมาควรนั่งพัก หรือนอนพักให้อาการดีขึ้นเสียก่อน

Sponsored

3.ดูแลเต้านม

ในระหว่างนี้การกินอาหารบำรุงครรภ์จะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมสำหรับเลี้ยงลูกหลังคลอด แต่ในขณะเดียวกัน คุณแม่ก็ต้องดูแลต้านมด้วย เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับลูกโดยตรง โดยในช่วงก่อนคลอดนั้น ร่างกายจะมีการขับไขมันออกมาคลุมบริเวณหัวนมและลานนม ดังนั้นเวลาที่คุณแม่อาบน้ำ จึงไม่ควรฟอกสบู่บริเวณนี้มากจนเกินไป เพราะจะไปชะล้างไขมันที่มีอยู่ ทำให้หัวนมแห้งและแตกได้

4.เตรียมของใช้ต่างๆ

คงถึงช่วงที่คุณแม่ต้องเริ่มจัดของลงกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปคลอดแล้ว โดยคุณแม่สามารถสอบถามที่โรงพยาบาลได้ว่าต้องนำสิ่งของใดไปเพิ่มเติมบ้าง เพราะโรงพยาบาลบางแห่งนั้นจะจัดเตรียมของใช้ไว้ให้หมด ยกเว้นแต่เสื้อผ้าวันใส่กลับบ้านของแม่และลูก รวมทั้งเอกสารต่างๆ ที่ใช้แจ้งเกิด เช่น บัตรประชาชน ก็อย่าลืมนำติดตัวไปด้วย

5.พร้อมรับอาการฉุกเฉิน

ช่วงนี้คุณแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการที่บ่งบอกว่าจะคลอดไว้ด้วย เช่น อาการท้องแข็ง ทุกๆ 5-10 นาที มีน้ำเดิน มูกเลือดออกทางช่องคลอด รวมทั้งอาการผิดปกติ เช่น ลูกดิ้นน้อยลง ภาวะครรภ์เป็นพิษ ที่ทำให้มีอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว จุกแน่นลิ้นปี่ บวม เหล่านี้เป็นต้น โดยถ้าพบว่ามีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ทันที

พัฒนาการทารกในครรภ์ 8 เดือน มีการพัฒนาเกือบเต็มที่ และพร้อมจะออกสู่โลกภายนอกในอีกไม่ช้านี้ ดังนั้นการทานอาหารที่มีประโยชน์จึงยังจำเป็น โดยคุณแม่อาจออกกำลังกายเบาๆ เพิ่ม เพื่อช่วยลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ และควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอด้วย

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ตั้งครรภ์ท้องอืด ปัญหาที่แม่ท้องมักจะต้องเจอบ่อยๆ

2.การตั้งครรภ์ กับการดูแลจุดซ่อนเร้นตอนท้อง ที่ไม่ควรมองข้าม