กระดูกของลูกน้อยจะแข็งแรงมากพอ และช่วยให้ลูกน้อยเติบโตสูงขึ้นตามวัยหรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากอาหาร และแร่ธาตุสำคัญที่มีผลต่อกระดูกของลูก ก็คือแคลเซียมนั่นเอง ดังนั้นคุณแม่ควรให้ลูกทานอาหารเสริมแคลเซียมอย่างเพียงพอ แต่จะมีอาหารอะไรบ้างที่อุดมไปด้วยแคลเซียมสูง เรามาดูกันเลย
อาหารเสริมแคลเซียม สำคัญต่อลูกอย่างไร
แคลเซียมนั้นถือเป็นแร่ธาตุที่สำคัญพบมากในกระดูกและฟัน ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง อีกทั้งยังมีหน้าที่อื่นๆ เช่น ช่วยในการทำงานของระบบประสาทในส่วนของกล้ามเนื้อ ช่วยเรื่องการยืดและหดของกล้ามเนื้อต่างๆ ทำให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ ช่วยการแข็งตัวของหลอดเลือด ควบคุมการผลิตฮอร์โมนและเอนไซม์บางอย่างที่ช่วยในการย่อยและเผาผลาญอาหารให้เป็นปกติ เป็นต้น ซึ่งการที่ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอก็จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกได้ แต่ในทางกลับกัน ถ้าร่างกายขาดแคลเซียมจะทำให้เกิดความผิดปกติต่างๆ เช่น กระดูกหักง่าย กระดูกพรุน เป็นตะตริว กล้ามเนื้อกระตุก และหัวใจเต้นผิดปกติ เป็นต้น
ลูกควรสูงเท่าไหร่ มาคำนวณกันค่ะ
แนะนำ 8 อาหารเสริมแคลเซียมสำหรับลูกน้อย
ในแต่ละวัน เด็กควรได้รับแคลเซียมให้เพียงพอต่อร่างกาย ซึ่งอาหารที่มีแคลเซียมนั้น มีดังต่อไปนี้
1.นม
นมถือว่าเป็นอาหารเสริมแคลเซียมชั้นเยี่ยม ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี และยังมีปริมาณแคลเซียมสูง โดยนมสดรสจืด 1 กล่อง ขนาด 200 ซีซีนั้น มีปริมาณแคลเซียมอยู่ถึง 226 มิลลิกรัม ซึ่งเด็กควรกินนมวันละ 2-3แก้ว ร่วมกับการกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เพื่อช่วยให้ได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอในแต่ละวัน สำหรับเด็กที่มีปัญหาเรื่องการแพ้นมวัว การกินอาหารจากแหล่งอื่น ก็ช่วยให้ได้รับแคลเซียมได้เช่นกัน เช่น ผักใบเขียว ถั่วเหลือง ถั่วเปลือกแข็ง งา เมล็ดฟักทอง เป็นต้น
2.ชีส
ผลิตภัณฑ์จากนม อย่างชีส นอกจากจะกินง่าย เพราะมีรสชาติดีแล้ว คุณแม่ยังสามารถนำมาใส่ลงในอาหารลูก ทำให้ได้เมนูใหม่ๆ เช่น สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ซีซาร์สลัดพาเมซานซีส หรือจะกินเปล่าๆ เป็นอาหารว่าง อย่างชีสแท่งก็ได้ ซึ่งชีสนั้นถือเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี เพราะให้แคลเซียมสูงกว่านมถึง 2 เท่า อีกทั้งยังมีโปรตีนสูง และให้พลังงาน จึงเหมาะกับเด็กวัยกำลังซน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรให้ลูกกินชีสอย่างพอเหมาะ เพราะอาจทำให้ลูกเป็นโรคอ้วนได้ในกรณีที่บริโภคมากเกินไป
3.โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
โยเกิร์ตอาหารเสริมแคลเซียมจากนม ที่นำไปหมักโดยใช้แบคทีเรียโปรไบโอติกที่ดี ทำให้มีโมเลกุลขนาดเล็ก จึงดูดซึมเข้าร่างกายได้ง่าย เหมาะกับผู้ที่แพ้นมวัว เพราะทำให้เกิดอาการแพ้น้อยลง ซึ่งนอกจากโยเกิร์ตจะมีแคลเซียมที่สูงแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในระบบย่อยอาหาร จึงช่วยบรรเทาอาการท้องเสียให้ดีขึ้นด้วย
4.ถั่วต่างๆ
ถั่วต่างๆ ทั้งถั่วแดง ถั่วดำ และถั่วขาว นั้นเป็นเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ และยังเป็นอาหารเสริมแคลเซียม ซึ่งคุณแม่สามารถนำมาทำเป็นอาหารว่างให้ลูกๆ เพื่อเสริมคุณค่าทางอาหารนอกเหนือจากโภชนาการมื้อหลัก นอกจากนี้ถั่วที่อยู่ในฝัก เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วพลู ถั่วลันเตา ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญนั้น ก็ให้แคลเซียมที่สูงเช่นกัน ดังนั้นคุณแม่จึงควรนำมาประกอบอาหารเป็นเมนูต่างๆให้ลูกได้กิน
5.ผักใบเขียว
คุณแม่จำเป็นต้องฝึกให้ลูกได้กินผักใบเขียวตั้งแต่ยังเล็ก เพราะคุณประโยชน์ของผักใบเขียวนั้น โดยเฉพาะผักใบเขียวเข้มจะให้แคลเซียมสูง เด็กๆ จึงไม่ควรพลาด โดยผักใบเขียวเหล่านี้ ได้แก่ ผักคะน้า ใบชะพลู ตำลึง ใบยอ ยอดแค ผักกระเฉด บร็อกโคลี เป็นต้น
6.เมล็ดพืช
เมล็ดพืชต่างๆ เช่น งาขาว งาดำ เมล็ดเฟล็กซ์ เมล็ดเจียนั้นถือเป็นอาหารเสริมแคลเซียมที่มีคุณประโยชน์ โดยเฉพาะเมล็ดงาดำมีแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูก ซึ่งสูงกว่านมถึง 8 เท่า และในปัจจุบันมีงาดำบดออกมาจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อให้คุณแม่ได้เลือก เพื่อนำมาเป็นอาหารเสริมให้กับลูกน้อย ไม่ว่าจะนำไปโรยใส่ข้าว หรือโรยในเมนูขนม และผสมลงในเครื่องดื่มก็ได้
7.ปลาและสัตว์ตัวเล็กๆ
ปลา และสัตว์ตัวเล็กๆ ที่กินได้ทั้งกระดูกหรือเปลือก เช่น กุ้งแห้ง กุ้งฝอย ปลาซาร์ดีน ปลาซิว ปลาไส้ตัน ปลาจิ้งจ้างนั้น มีแคลเซียมอยู่สูงมาก เพียงแค่กินปลาเล็กปลาน้อย 2 ช้อนโต๊ะ ก็ทำให้ได้ปริมาณแคลเซียมถึง 226 มิลลิกรัมเลยทีเดียว แต่การนำมาให้เด็กเล็กกินนั้น คุณแม่ควรบดให้ละเอียดเสียหน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้ก้างเล็กๆ ติดคอลูกน้อย แล้วค่อยนำมาโรยบนข้าว และเมื่อลูกโตขึ้นค่อยหัดให้เขากินเป็นตัวๆ ก็ได้
8.เต้าหู้
เต้าหู้นอกจากจะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีแล้ว ยังมีปริมาณของแคลเซียมที่สูงอีกด้วย ซึ่งเต้าหู้นิ่มๆ นั้นกินง่าย คุณแม่นำมาดัดแปลงได้หลากหลายเมนู เช่น เต้าหู้ทรงเครื่อง แกงจืดเต้าหู้ เต้าหู้อบหม้อดิน ผัดเต้าหู้กับถั่วงอก เป็นต้น นอกจากนี้คุณแม่อาจทำเป็นน้ำเต้าหู้ให้ลูกไว้ดื่มแทนก็ได้ และอาจเพิ่มคุณประโยชน์ด้วยการใส่เครื่องต่างๆ ก็จะทำให้ได้ประโยชน์มากขึ้นไปอีก เช่น น้ำเต้าหู้ทรงเครื่องที่ใส่ธัญพืชต่างๆ เช่น ลูกเดือย สาคู งาดำ
นอกจากการกินอาหารเสริมแคลเซียมแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความสูงและช่วยให้ลูกมีกระดูกที่แข็งแรง เช่น การออกกำลังกาย รวมทั้งการทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เหล่านี้เป็นปัจจัยที่พ่อแม่ควรส่งเสริมลูกน้อยทั้งสิ้น
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่