คุณแม่ที่เตรียมตั้งครรภ์ และอยู่ในครอบครัวที่มีความพร้อมในการเลี้ยงดูลูกแฝดซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับการตั้งครรภ์ของคุณแม่ 1 ครั้ง ทำให้ได้ลูกน้อยออกมาพร้อมกันได้ 2 คน สำหรับการมีลูกแฝดนั้น คุณแม่ที่ไม่เคย เลี้ยงลูกแฝด จะต้องรับภาระที่หนักมากในการที่ต้องเลี้ยงลูกด้วยตนเอง นอกเสียจากว่าคุณแม่จะมีผู้ช่วยที่สามารถทำหน้าที่การเลี้ยงดูเด็กได้อย่างเชี่ยวชาญมาช่วยเท่านั้น จึงจะแบ่งเบาภาระนี้ได้ แต่สำหรับครอบครัวที่มีความพร้อมและอยากได้ลูกแฝดจริงๆ บทความนี้ก็มีเคล็ดลับในการมีลูกแฝดมาให้คุณแม่พิจารณา และทำตามคำแนะนำกันค่ะ

5 เคล็ดลับ สำหรับคนที่อยากได้ลูกแฝด

การที่คุณแม่จะมีลูกแฝด สิ่งแรกคือการเตรียมความพร้อมร่างกายให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ก่อนเตรียมตัวตั้งครรภ์ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์แฝดได้สูง อีกทั้งเมื่อทำตามคำแนะนำด้านล่างนี้ จะทำให้โอกาสความเป็นไปได้มีมากขึ้น มาดูปัจจัยที่ทำให้ได้ลูกแฝดกันค่ะ

1.รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม

ผลงานวิจัยของ ดร.แกรี่ ไตน์แมน ประจำศูนย์การแพทย์ที่เมืองลองไอแลนด์ มลรัฐนิวยอร์ก บอกว่าคุณแม่ที่ดื่มนมในปริมาณมากกว่าปกติ 5 เท่าจะมีโอกาสได้ลูกแฝดมากกว่า คุณแม่ที่ไม่ได้กินอาหารประเภทเนื้อ และนมถึง 5 เท่าเช่นกัน ดังนั้นใครอยากได้ลูกแฝด ต้องดื่มนมเยอะๆ กันเลย

2.การให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง

มีอีกหนึ่งงานวิจัยที่ระบุว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ให้นมลูกคนแรกอย่างต่อเนื่อง เมื่อเกิดตั้งครรภ์ที่สอง จะมีโอกาสได้ลูกแฝดมากกว่าคุณแม่ที่ไม่ได้ให้นมลูก หรือให้ลูกกินนมได้ไม่นานพอ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ได้ผลเต็มร้อย ต้องอาศัยปัจจัยอื่นร่วมด้วย

3.กินยาคุมเกิน 3 ปีขึ้นไป

คุณแม่ที่เคยกินยาคุมกำเนิดมาตลอด 3 ปี พอหยุดกินยาจะทำให้ไข่ตกมากขึ้น เพราะฤทธิ์ของยาที่เคยกดฮอร์โมนใต้สมองไว้ จึงทำให้ไข่ไม่ตก พอหยุดกินฮอร์โมนที่ถูกกดไว้จะถูกปลดปล่อยออกมา ไข่จึงตกมากหลายใบ จึงเปิดโอกาสให้การตั้งครรภ์เด็กแฝดเป็นไปได้มากขึ้น

4.กินกรดโฟลิก

มีงานวิจัยจากต่างประเทศ พบว่า กรดโฟลิกมีส่วนช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์แฝดมากขึ้น แต่งานวิจัยนี้ ยังมีนักวิจัยอื่นๆ แย้งว่าเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก อย่างไรก็ตามการกินกรดโฟลิกก็เป็นเรื่องจำเป็นอยู่แล้วที่คุณแม่เตรียมตัวตั้งครรภ์ ควรกินไว้เนิ่นๆ ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน ดังนั้นใครอยากได้ลูกแฝดก็ทำตามนี้ดู

5.ฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก และการทำเด็กหลอดแก้ว

การฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก และการทำเด็กแฝดในหลอดแก้วด้วยเทคนิคทางการแพทย์ มีโอกาสที่คุณแม่จะตั้งครรภ์ลูกแฝดได้มาก แต่อาจต้องใช้เงินจำนวนมากเช่นกัน สำหรับคุณแม่ที่มีความพร้อม สามารถติดต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาขอคำแนะนำได้ อาจจะต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านร่างกายคุณแม่บ้างพอสมควร

ข้อดีของการมีลูกแฝด

สำหรับคุณแม่ที่อยากได้ลูกแฝด คงอยากรู้ว่าการมีลูกแฝดมีข้อดีในเรื่องใดบ้างมาดูกันเลย

1.ตั้งครรภ์เพียงครั้งเดียวได้ลูก 2 คนหรือมากกว่า

จึงทำให้มีมุมมองว่าเป็นความโชคดี มีโชคลาภ เพราะลูกน้อย โดยเฉพาะเด็กแฝด เป็นสิ่งดี เป็นสิริมงคลของบ้าน และครอบครัว

Sponsored

2.มีความน่ารักน่าเอ็นดู

ใครได้เด็กน้อยที่หน้าตาเหมือนกันมีความจิ้มลิ้มไร้เดียงสาใครเห็นก็ต้องหลงรัก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่ได้เห็นลูกของตนเองโตขึ้นมาพร้อมๆ กัน ก็จะทำให้มีความสุข มากขึ้น และด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนอยากได้ลูกแฝด

3.ทำให้ในวัยเด็กของลูกมีเพื่อนเล่น

ลูกจะมีเพื่อนเล่นซึ่งเป็นพี่น้องกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังได้ปรึกษาหารือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องการเรียน ตลอดจนการใช้ชีวิตในวันข้างหน้า  เมื่อมีความรู้ใจเข้าใจกัน จึงทำให้ลูกแฝด มีโอกาสได้รับความสุข ความอบอุ่นในวัยเด็ก มากกว่าเด็กที่เกิดมาเป็นเด็กคนเดียวของครอบครัว

เคล็ดลับสำหรับคนอยากได้ลูกแฝดที่นำเสนอไปแล้วนี้จะมีประโยชน์มากเพียงใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของคุณแม่เป็นหลัก หากคุณแม่ที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดีแล้ว ได้ทำตามคำแนะนำที่กล่าวมานี้ ก็จะทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ลูกแฝดได้ คุณแม่ท่านใดที่ตั้งใจจะมีลูกแฝด ก็ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ดูนะคะ อาจจะทำให้ได้ลูกแฝดสมดั่งใจปรารถนาก็ได้

= = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about growing up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.ฝังเข็มยาคุม ท้องได้ไหม? ข้อดีข้อเสีย การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้

2.ยาคุมกำเนิดผู้ชาย ผู้หญิงไม่ต้องเป็นฝ่ายคุมกำเนิดเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป