เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สองหรือช่วง ท้อง 13 สัปดาห์ คุณแม่อยากรู้กันไหมว่า เจ้าตัวน้อยในครรภ์จะมีพัฒนาการและการเจริญเติบโตไปถึงไหนแล้ว รวมทั้งสิ่งที่คุณแม่ควรทำในช่วงอายุครรภ์ 13 สัปดาห์นี้ โดยเราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแม่ได้อ่านทำความเข้าใจกันแล้ว
ท้อง 13 สัปดาห์ ลูกน้อยตัวแค่ไหน
เมื่อท้อง 13 สัปดาห์ ทารกจะมีความยาวประมาณ 7.5 เซนติเมตร และน้ำหนักตัวประมาณ 30 กรัม โดยเทียบขนาดพอๆ กับมะนาวสีเหลือง อีกทั้งอวัยวะและระบบต่างๆ ภายในร่างกายก็เจริญเติบโตและทำงานเต็มที่ เริ่มมีลายนิ้วมือ สามารถกลืนน้ำคร่ำและปล่อยปัสสาวะออกมาได้ ตาและหูดูเป็นรูปร่างมากขึ้น และเริ่มได้ยินเสียงของคุณแม่ นอกจากนี้หากคุณแม่อยากทราบเพศลูกก็สามารถตรวจได้แล้วอีกด้วย
สิ่งที่คุณแม่ควรทำ เมื่ออายุครรภ์ 13 สัปดาห์
สำหรับสิ่งที่คุณแม่ควรทำเมื่อ ท้อง 13 สัปดาห์ ก็มีดังต่อไปนี้
1.ตรวจหาอาการดาวน์
คุณแม่ที่มีอายุเกิน 35 ปีหรือมีครรภ์เสี่ยงจะได้รับพิจารณาการตรวจครรภ์เป็นพิเศษในช่วงอายุครรภ์นี้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น อัลตราซาวด์ดูอายุครรภ์ และวัดความหนาของผิวหนังบริเวณต้นคอทารกในครรภ์ ร่วมกับการเจาะเลือดของคุณแม่ไปตรวจหาอาการดาวน์ซินโดรม ซึ่งผลของการตรวจด้วยวิธีนี้นั้นมีความแม่นยำถึง 91% ที่จะ ทำให้คุณแม่ทราบว่าทารกในครรภ์มีความเสี่ยงภาวะดาวน์หรือไม่ โดยทารกที่เป็นดาวน์มักมีน้ำคั่งค้างที่บริเวณต้นคอทารกมากกว่าทารกปกติทั่วไป
2.ทานอาหารบำรุงครรภ์
เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบ เช่น ทำให้เหงือกบวมและมีเลือดออกตามไรฟัน ดังนั้นคุณแม่ควรเลือกทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง อย่างผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ฝรั่ง สตรอเบอรี่ ที่จะช่วยรักษาอาการดังกล่าวได้ แถมยังช่วยบำรุงกระดูกและฟันของทารกในครรภ์ให้แข็งแรงอีกด้วย
3.ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าท้อง
คุณแม่หลายคนถือเคล็ดว่าไม่ควรบอกให้ใครรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ จนกว่าจะผ่านช่วง 3 เดือนแรกไปก่อน ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงท้อง 13 สัปดาห์ คุณแม่ก็สามารถแจ้งข่าวดีนี้กับทุกคนได้แล้ว
4.เตรียมพร้อมเต้านม
ในช่วงเดือนนี้ต่อมน้ำนมและท่อน้ำนมกำลังเจริญเติบโต ดังนั้นจึงไม่ควรมีอะไรไปขัดขวางการพัฒนาการของเต้านมที่กำลังเตรียมผลิตน้ำนมเพื่อใช้เลี้ยงลูกในอนาคต ซึ่งแพทย์หลายคนได้แนะนำให้คุณแม่ใส่ชุดชั้นในแบบไร้โครงซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้มีการยืนยันว่าโครงของชุดชั้นในส่งผลอันตรายอย่างไร แต่เพื่อความสบายใจคุณแม่ควรเลือกใส่ชุดชั้นในแบบไม่มีโครงจะดีกว่า
5.ไม่ยืนและนั่งนานๆ
คุณแม่ไม่ควรยืนทำงานเป็นเวลานานๆ ควรนั่งพักหรือเปลี่ยนอิริยาบถเป็นท่าอื่นๆ บ้าง และถ้าจำเป็นต้องนั่งทำงานๆ ควรเลือกเก้าอี้ที่มีพนังพิงช่วงหลัง และนั่งในท่าที่วางฝ่าเท้าราบกับพื้นได้พอดี
อาการต่างๆ ที่มักจะพบในช่วงอายุครรภ์ 13 สัปดาห์
สำหรับอาการที่คุณแม่มักจะต้องเจอในช่วงท้อง 13 สัปดาห์ของการตั้งท้อง ก็มีดังนี้
1.อาการแพ้ท้องดีขึ้น
เมื่อเข้าสู่ช่วงท้อง 13 สัปดาห์ คุณแม่จะรู้สึกว่าอาการแพ้ท้อง ทั้งคลื่นไส้ อาเจียนและอ่อนเพลียลดลง ทำให้คุณแม่สดชื่นขึ้น แถมอัตราเสี่ยงต่อการแท้งยังลดลงด้วย ดังนั้นช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ถือเป็นช่วงทองของการตั้งครรภ์ ที่คุณแม่สามารถไปเที่ยวพักผ่อนอย่างเต็มที่ ก่อนกลับมารับมือกับการคลอดและการเลี้ยงลูกหลังคลอดนั่นเอง
2.อยากอาหารมากขึ้น
หลังจากผ่านพ้นช่วงแพ้ท้องไปแล้ว คุณแม่จะรู้สึกหิวบ่อย และทานอาหารได้เยอะขึ้น ดังนั้นจึงควรระวังการทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่มากจนเกินไป ควรเพิ่มโปรตีน เน้นผักและผลไม้ และควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว เพื่อป้องกันอาการท้องผูก
3.หน้าอกเริ่มผลิตน้ำนม
หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น เมื่อคลำดูจะพบก้อนในเต้านม ซึ่งเป็นต่อมน้ำนมและท่อน้ำนมกำลังเติบโต เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับผลิตน้ำนมที่มีสารอาหารสำคัญสำหรับเลี้ยงลูกน้อยที่กำลังจะคลอดออกมา
4.ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น
เนื่องจากมดลูกขยายใหญ่ขึ้นมาก จนไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้ปวดปัสสาวะและเป็นสาเหตุให้คุณแม่มีอาการปวดปัสสาวะบ่อยนั่นเอง
5.เจ็บชายโครง
นอกจากมดลูกจะขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับกระเพาะปัสสาวะแล้ว มดลูกยังไปกดทับกระดูกซี่โครงอีกด้วย จึงส่งผลให้คุณแม่รู้สึกเจ็บชายโครงด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ควรเปลี่ยนท่าหรืออิริยาบถอย่างรวดเร็ว หรือหากเจ็บมากก็ควรนอนพักทันที
6.ความดันเลือดลดลง
ในช่วงท้อง 13 สัปดาห์ ฮอร์โมนตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตขยายตัวขึ้น จึงส่งผลให้ความดันโลหิตของคุณแม่ลดลง
7.หายใจเร็วและถี่ขึ้น
เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดคุณแม่เพิ่มขึ้นจากการส่งต่อมาจากลูกผ่านรกในครรภ์ ดังนั้นในขณะที่ร่างกายขับก๊าซนี้ออกมาจากร่างกาย จึงส่งผลให้อัตราการหายใจเปลี่ยนไปจากเดิมทั้งเร็วและถี่ขึ้น
คุณแม่จะเผชิญความเปลี่ยนแปลงในระหว่างตั้งท้อง ในทุกๆ เดือน ไม่เพียงแต่ช่วง ท้อง 13 สัปดาห์ เท่านั้นซึ่งบางคนอาจจะพบเจออาการต่างๆมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป แต่ถ้าในกรณีพบ ความผิดปกติเกิดขึ้นในช่วงที่ตั้งครรภ์ นี้ ก็ไม่ควรรีรอที่จะไปพบแพทย์ในทันที
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..
